วันนี้ แหม่มรีวิว มีภาพยนตร์แอ็คชั่นมารีวิวให้เพื่อน ๆ ฟังกันค่ะ นั่นก็คือเรื่องราวของ ซุปเปอร์ฮีโร่คนใหม่จากคอมมิคของค่าย D.C. ยุคแรก ที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ Live-Action อย่าง “Blue Beetle” (บลู บีเทิล) จาก ผู้กำกับ Angel Manuel Soto เป็นการเล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่มและได้นำเสนอวัฒนธรรมละติน พร้อมฉากแอ็คชั่นสนุก ๆ ซึ่งหนังเรื่องนี้ถูกคาดหวังให้เป็นผลงานที่จะมากอบกู้ความหวังให้จักรวาลภาพยนตร์ D.C.
Blue Beetle (บลู บีเทิล) เป็นคอมมิกที่ปรากฏครั้งแรกใน Mystery Men Comics เมื่อปี 1939 เล่าเรื่องราวของ แดน การ์เร็ตต์ นักโบราณคดีที่พบ “สกาแรบ” วิเศษในร่องรอยการล่มสลายของอียิปต์ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นตัวละครใหม่ของ “เทด คอร์ด” นักประดิษฐ์อัจฉริยะ หลังจากนั้นในปี 1966 เรื่องราวของสกาแรบก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งในร่างของชายหนุ่มที่ชื่อว่า “ไฮเม่ เรเยส” โดย Blue Beetle ถือเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ในยุคแรก ๆ ของ D.C. และถูกนำมาดัดแปลงสู่จอภาพยนตร์ในปี 2023 ค่ะ
เรื่องย่อ
Blue Beetle (บลู บีเทิล) เล่าเรื่องของ ไฮเม่ เรเยส (รับบทโดย โซโล มาริดูเอญญา – Xolo Mariduena) หนุ่มมหาวิทยาลัยจบใหม่ไฟแรง แต่เมื่อเขากลับบ้านก็ต้องพบว่าที่ผ่านมาครอบครัวมีปัญหาทางการเงินขั้นรุนแรงแถมพ่อยังป่วยอีกต่างหาก ไฮเม่จึงต้องดิ้นรนหางานทำเพื่อช่วยเหลือครอบครัว จนได้พบกับ เจนนิเฟอร์ คอร์ด (รับบทโดย บรูน่า มาร์เกอซีน – Bruna Marquezine) หญิงสาวทายาทผู้บริหารบริษัทคอร์ด อินดัสตรี
เธอสัญญาจะมอบงานให้เขาทำตอบแทนที่ไฮเม่โดนไล่ออกเพราะเข้ามาช่วยเธอจาก วิกตอเรีย คอร์ด (รับบทโดย ซูซาน ซาแรนดอน – Susan Sarandon) ผู้เป็นป้าและผู้บริหารบริษัทคนปัจจุบัน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชีวิตของไฮเม่เปลี่ยนไป เพราะเขาได้พบกับ “สกาแรบ” ด้วงสีน้ำเงิน มันเลือกเขาเป็นร่างโฮสต์และเปลี่ยนเขาให้กลายเป็น “บลู บีเทิล”
ทำไมถึงควรไปดู Blue Beetle
ด้วยการดำเนินเรื่องของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเรียบง่าย เป็นเส้นตรง มีความสูตรสำเร็จแบบหนังฮีโรที่เราพบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตัวเอกที่เป็นเด็กหนุ่มนิสัยดีรักครอบครัวที่ต้องเผชิญปัญหาชีวิต ได้รับพลังแบบไม่คาดคิด ไม่เข้าใจและปฏิเสธตัวตนของตัวเองในตอนแรก ไปจนสู่การปรับตัวและยอมรับในภายหลัง รวมถึงการก้าวข้ามความสูญเสียต่าง ๆ เพื่อเติบโตขึ้น และเป็นนำเสนอตัวเอกที่เป็นชาวละติน เราจึงได้ซึมซับกลิ่นอาย บรรยากาศ และวัฒนธรรมในแบบละตินอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เรียกได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่ดีและเพื่อน ๆ ไม่ควรพลาดกับภาพยนตร์เรื่องนี้ค่ะ
ตัวอย่าง
Blue Beetle มี end credit ไหม
เพื่อน ๆ คนไหนดูจบแล้ว แหม่มบอกเลยว่าอย่ารีบเพิ่งลุกนะคะ เพราะมีฉากเครดิตท้ายเรื่องถึง 2 คลิปให้ชมกัน โดยจะเป็นการปูทางของการผจญภัยในอนาคตของซุปเปอร์ฮีโร่ Blue Beetle นั่นเองค่าา
เข้าโรงวันไหน
กำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย เข้าฉายแล้ว ตั้งแต่วันที่ 18 สิงหาคม 2566 ความยาวหนัง 2 ชั่วโมง 7 นาที ใครยังไม่ไปดู รีบเลยนะคะ เดี๋ยวจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง
รีวิว Blue Beetle ได้คะแนนรีวิวเท่าไร
จุดเด่น
- การถ่ายทำ ตัดต่อ และ CG มีคุณภาพ ออกมาสวยเนียนตา
- ฉากแอ็คชั่นดูเพลิน ช่วยทำให้ภาพรวมของหนังสนุก
- สื่อสารประเด็นพลังครอบครัวได้ชัดเจนไม่เล่นใหญ่จนเนื้อเรื่องเละเทะ
จุดสังเกต
- เนื้อเรื่องสูตรสำเร็จ เดาทางง่าย บางคนอาจจะไม่ได้ลุ้นอะไร
- มีกลิ่นอายหลายอย่างที่เราคุ้นเคยจากหนังฮีโรหลายเรื่อง
- การเล่นใหญ่และมุกที่พยายามใส่เข้ามาอาจดูล้นเกินไปบาง แต่ถ้าใครชอบก็ไม่ควรพลาดค่ะ
สำหรับ คะแนนรีวิวของหนังเรื่อง Blue Beetle บนเว็บไซต์ IMDb อยู่ที่ 6.9 จากเต็ม 10 คะแนน และในส่วนของรีวิวบนเว็บไซต์ของ Rotten Tomatoes อยู่ที่ 79% ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังจากค่าย D.C. ที่ได้รับเสียงตอบรับในทิศทางที่ดี
Blue Beetle เข้า Netflix วันไหน?
เนื่องจาก “Blue Beetle” (บลู บีเทิล) เป็น ภาพยนต์จากค่ายชื่อดังอย่าง D.C. ซึ่งโดยปกติแล้ว ภาพยนตร์จากค่ายนี้จะมีการนำมาฉายย้อนหลังให้เพื่อนเพื่อนชมกันใน Netflix กันอยู่แล้ว แต่แฟน ๆ ชาวไทยก็ต้องมาลุ้นกันอีกทีนะคะว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเข้าฉายแพลตฟอร์มไหน เพราะในปัจจุบันทางค่ายก็ได้มีการนำไปฉายใน HBO Max เช่นกัน และส่วนจะเป็นวันไหนนั้น ต้องมาลุ้นกันอีกทีค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะกับ ภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่สร้างมาจากคอมมิกของค่าย D.C. เพื่อน ๆ คนไหน ที่อยากซึมซับกลิ่นอาย บรรยากาศ และวัฒนธรรมในแบบละตินอยู่ตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเพลง วิถีชีวิต แหม่มรีวิว บอกเลยว่าไม่ควรพลาดภาพยนตร์เรื่องนี้เลยค่ะ แต่ตอนนี้รอดูแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ไหวหรอกค่ะ แหม่มขอตัวไปดูในโรงก่อนนะคะ เดียวจะเม้าท์กับเพื่อนไม่ทัน
อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัพเดทสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง