แชร์ทริค – ขึ้นภูกระดึง 2024 | จุดเช็คอินที่ชีวิตนี้ต้องไปให้ได้สักครั้ง!!

หน้าหนาว นับว่าเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวเลยค่ะ สถานที่สุดฮิตบนยอดเขา ยอดดอยต่าง ๆ ก็กำลังคึกคักเลยทีเดียว โดยเฉพาะ ภูกระดึง  สวรรค์ของนักเดินทางที่ชอบการปีนเขาหรือท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ ที่สักครั้งจะต้องไปพิชิตยอดภูกระดึงให้ได้ ตามวลียอดฮิตของภูกระดึงที่ว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง วันนี้ใครอยากแบกเป้ขึ้นภูกระดึง ตาม แหม่มรีวิว มาดูทริคดี ๆ สำหรับการเตรียมตัวขึ้นภูกระดึงกันค่ะ

ภูกระดึงช่วงไหนน่าเที่ยวที่สุด?

อุทยานแห่งชาติภูกระดึงช่วงเดือน ธันวาคม – กุมภาพันธ์ บอกเลยว่าน่าเที่ยวที่สุด เป็นช่วงที่อากาศกำลังหนาวพอดี หมอกหนา ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ และเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลเปลี่ยนสีเป็นสีแดง ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่เมืองนอกเลยค่ะ

-โฆษณา-

โดยปกติแล้วที่นี่จะ เปิดให้ขึ้นเฉพาะหน้าหนาว เท่านั้น ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม – 31 พฤษภาคมของทุกปี เวลาขึ้นภูจะอยู่ใน ช่วง 06.00 – 13:00 น. นักท่องเที่ยวจะใช้เวลาเดินทางขึ้นไปถึงบนยอดภูกระดึงประมาณ 4-5 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ การขึ้นภูกระดึงจะมีค่าธรรมเนียมด้วยค่ะ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท

เส้นทางการขึ้นภูกระดึง

การเดินทางขึ้นภูกระดึงค่อนข้างจะลำบากเล็กน้อย เนื่องจากเป็นภูเขาลาดชัน มีหน้าผาสูง แต่ก็ไม่อาจทำลายความตั้งใจของนักท่องเที่ยวได้ค่ะ เพราะว่าวิวข้างบนนั้นบอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ ระหว่างทางก็จะมีที่พักให้นักท่องเที่ยวได้แวะพักกัน โดยจะแบ่งเป็นซำต่าง ๆ แต่ละซำก็จะมีร้านค้าขายของกิน เครื่องดื่ม แต่ราคาก็จะสูงนิดหน่อย ยิ่งสูงยิ่งแพงเลยค่ะ เพราะว่าคนที่นี่ก็ต้องแบกของขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้เรา คิดซะว่าเป็นค่าเหนื่อยนะคะ จากด้านล่างขึ้นมาถึงยอดภู หรือที่เรียกว่าหลังแป จะ มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร เมื่อขึ้นมาถึงหลังแปแล้วก็จะ ต้องเดินทางราบไปยังจุดกางเต็นท์อีก 3 กิโลเมตร

ระหว่างทางที่เดินขึ้นภูกระดึงเรามักจะเห็นนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่มาพร้อมกับชายหนุ่มร่างกายแข็งแรง นั่นก็คือลูกหาบนั่นเองค่ะ ใครที่มีสัมภาระเยอะสามารถใช้บริการลูกหาบได้ โดยมีค่าบริการคิดเป็นกิโลกรัม ประมาณกิโลกรัมละ 30 บาทค่ะ

กิจกรรมบนภูกระดึงมีอะไรบ้าง?

หลายคนอาจคิดว่าเมื่อเราเดินขึ้นภูกระดึงไปแล้ว ก็จะได้ดื่มด่ำไปกับจุดชมวิวที่เรามักจะได้เห็นตามรูปถ่าย แต่ความสนุกมีมากกว่านั้นค่ะ กิจกรรมยอดฮิตบนภูกระดึงก็คือ การชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ถือเป็นจุดเช็คอินที่หลาย ๆ คนต้องมาถ่ายรูปให้ได้เลย

นอกจากพระอาทิตย์ตกแล้วตอนเช้าก็ยังมี พระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ทะเลหมอกยามเช้ากับอากาศเย็น ๆ ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย ใครที่อยากใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นไปอีกก็สามารถไปได้ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ ระหว่างทางเราจะได้เห็นใบเมเปิ้ลกระจายอยู่เต็มพื้น ช่วงที่บ่ายเมเปิ้ลเปลี่ยนเป็นสีแดงบอกเลยว่าสวยงามสุด ๆ ค่ะ

บนภูกระดึงยังมีจุดต่าง ๆ อีกหลายจุดให้เช็คอินกันด้วย เช่น สระอโนดาต หน้าผาต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าตัวน้อย ๆ เตรียมกล้องถ่ายรูปไปให้ดี ๆ เลยค่ะ ถ่ายรูปเพลินแน่นอน

การเตรียมตัวก่อนขึ้นภูกระดึง

เครื่องแต่งกายไปภูกระดึง

  • เสื้อผ้า แนะนำเป็นเสื้อแขนยาว กางเกงขายาวที่ใส่สบาย ป้องกันการขีดข่วนจากกิ่งไม้และแมลงต่าง ๆ ควรเป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบาหรือแห้งง่าย ไม่แนะนำกางเกงยีนส์ค่ะ
  • เสื้อกันหนาว ไม่ว่าฤดูไหนบนภูกระดึงอากาศจะค่อนข้างหนาว ควรเตรียมเสื้อกันหนาวไปให้พร้อม
  • รองเท้า แนะนำเป็นรองเท้าผ้าใบที่กันลื่นได้ เดินสะดวก เช่น รองเท้าวิ่ง รองเท้าสำหรับออกกำลังกายที่เหมาะกับการเดินเยอะ ๆ
  • ถุงเท้าหรือถุงกันทาก ช่วงหน้าฝนควรเตรียมถุงเท้ากันทากไปด้วย เพราะอากาศข้างบนจะค่อนข้างชื้น ทำให้มีทากมารบกวนเล็กน้อย

ของใช้จำเป็นที่ต้องนำไปด้วย

  • ถุงนอน ผ้าห่ม สำหรับใครที่ขี้หนาวมาก ๆ แนะนำให้เตรียมถุงนอนหรือผ้าห่มส่วนตัวไปด้วย จะช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้นค่ะ
  • เสื้อกันฝน ประเทศไทยมีอากาศแปรปรวนตลอดทุกฤดูกาล เพราะฉะนั้นควรพกเสื้อกันฝนติดไปด้วย หากฝนตกก็จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการขึ้นเขา
  • ไฟฉาย เป็นสิ่งของที่จำเป็นมาก ๆ ในตอนกลางคืน ใช้เวลาเดินไปเข้าห้องน้ำ หรือกลับมาจากการชมพระอาทิตย์ตกดิน
  • แบตสำรอง ใครที่นอนเต็นท์แน่นอนว่าจะไม่มีไฟฟ้าใช้ แต่ทางอุทยานก็มีบริการชาร์จแบตโดยจะมีค่าธรรมเนียมด้วย หรือหากเราไปกินอาหารที่ร้านก็สามารถฝากพ่อค้าแม่ค้าชาร์จแบตได้
  • รองเท้าแตะ ใช้เปลี่ยนเวลาที่เดินเล่นบนยอดภู เป็นการพักเท้าไปในตัวด้วย
  • ขวดน้ำส่วนตัว เราสามารถหิ้วน้ำขึ้นไปบนภูกระดึงได้ หรือด้านบนก็จะมีน้ำสะอาดขาย แต่ราคาก็จะสูงหน่อยค่ะ
  • ยาประจำตัวหรือยาสามัญ ใครที่มีโรคประจำตัวอย่าลืมพกยาไปด้วย ส่วนยาสามัญทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีจัดเตรียมไว้ให้ค่ะ
  • สเปรย์กันยุง แมลง เวลากลางคืนโดยเฉพาะช่วงหน้าฝนอาจมียุงหรือแมลงสเปรย์กันแมลงช่วยได้มากเลยค่ะ

ที่พักบนภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะมีเต็นท์และเครื่องนอนให้เช่า สามารถติดต่อได้ที่ทำการอุทยานด้านล่างภูกระดึง หรือใครที่ไม่สะดวกนอนเต้นท์ก็สามารถจองบ้านพักของทางอุทยานได้เลย

การเดินทางไปภูกระดึง

เครื่องบิน

  • สามารถบินตรงมาลงที่สนามบินจังหวัดเลย และนั่งรถทัวร์จาก บขส.เมืองเลย มาลง บขส.ภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเข้าตัวอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

รถยนต์ส่วนตัว

  • เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้า ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยว เข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
  • ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่น แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
  • เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ อำเภอภูผาม่าน และตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

รถทัวร์

  • สายกรุงเทพฯ-เมืองเลย หรือรถโดยสารระหว่างจังหวัดที่ผ่านอำเภอภูกระดึง ลงที่ผานกเค้าหรือสถานีขนส่งอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถวเพื่อเข้าอุทยาน

นอกจากจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนขึ้นภูกระดึงแล้ว ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยเช่นกันค่ะ ก่อนขึ้นภูกระดึงควรมีการฟิตร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้เราสามารถเดินทางไกลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ใครที่กำลังเตรียมตัวไปพิชิตภูกระดึงก็จัดกระเป๋าได้เลยค่ะ ทำตาม แหม่มรีวิว รับรองว่าขึ้นภูแบบมืออาชีพแน่นอน


อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัพเดทสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง

แหม่มรีวิว
Logo