พาเที่ยวฟินกับทะเลสวย ๆ พร้อมวิธีเดินทางไปที่ “เกาะพยาม จังหวัดระนอง”
สำหรับคนที่รักความสงบและอยากไปเที่ยวทะเลที่มีน้ำใส ชายหาดสวยนวลตา พร้อมกับชมพระอาทิตย์ตกและสนุกกับกิจกรรมอีกมากมาย แหม่มก็อยากจะแนะนำให้มาเยือนกันที่ “เกาะพยาม จังหวัดระนอง”ค่ะ
อีกทั้งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อนุรักษ์ทางธรรมชาติ การันตีความงดงามจนได้ฉายาว่าเป็น มัลดีฟส์แห่งเมืองไทยกันเลยทีเดียว แค่ฟังก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้ แหม่มรีวิว จึงได้รวบรวมวิธีการเดินทางไปที่ เกาะพยาม จังหวัดระนองมาฝากกันค่ะ
ท่าเรือไป-กลับ “เกาะพยาม”
เป็นท่าเรือหลักที่มีอยู่เพียงแห่งเดียวบนเกาะพยาม ซึ่งมีเรือให้บริการทั้ง เรือโดยสารขนาดใหญ่ และเรือเร็วสปีทโบ๊ท นอกจากนี้แล้วยังมีร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงร้านให้เช่ารถจักรยานยนต์เปิดบริการอีกด้วย
สำหรับการเดินทางไปที่ท่าเรือเกาะพยาม จะต้องมาเริ่มต้นขึ้นเรือกันที่ ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ เท่านั้น ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินระนอง 28 กิโลเมตร (เดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 35 นาที) มีเรือให้บริการ 2 ประเภท คือ
เรือเฟอร์รี่ธรรมดา
ออกรอบเวลา 9.30น. และ 14.00น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ในราคา 150 บาท
เรือสปีดโบ๊ท
ออกรอบเวลา 10.00 น.และ 14.30 น.ใช้เวลาเดินทาง 40 นาที ในราคา 270 บาท
back to menu ↑วิธีการเดินทางไปยัง ท่าเรือเกาะพยาม
วิธีการเดินทางไปยัง ท่าเรือเกาะพยามมีทั้งหมด 4 ประเภท ด้วยกัน ตามแต่ละคนจะสะดวกได้เลยค่ะ โดยมีรายละเอียดของการเดินทางไปยังท่าเรือเพื่อไปเกาะพยามดังนี้เลยค่ะ
1. การเดินทางโดยรถยนต์
เดินทางจากกรุงเทพสู่ระนอง เริ่มจากเส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (หมายเลข 35) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 เมื่อถึงสี่แยกปฐมพร จ.ชุมพร ให้เลี้ยวขวาเพื่อเข้าสู่เมืองระนองด้วยระยะทางอีก 568 กิโลเมตร จากนั้นให้ฝากรถยนต์ไว้บริเวณ ท่าเรือระนองเทศบาลตำบลปากน้ำ คิดคืนละ 100 บาท แล้วซื้อตั๋วที่ท่าเรือเพื่อเดินทางไปยัง ท่าเรือเกาะพยาม
2. การเดินทางโดยรถประจำทาง (รถทัวร์/รถบัส)
ปัจจุบันนี้การนั่งรถทัวร์เดินทางจากกรุงเทพ-ระนอง มีบริษัทที่ให้บริการหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น บขส. ,รถประจำทางของบริษัท โชคอนันต์ทัวร์, บริษัทสมบัติทัวร์, บริษัทนิวมิตรทัวร์ เป็นต้น ในราคาประมาณ 600 บาท และใช้ระยะเวลาเดินทาง 8-9 ชั่วโมง
จากนั้นเมื่อมาถึงบขส.ระนองแล้ว ให้นั่งรถสองแถวไป ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ แล้วไปซื้อตั๋วที่นั่นเพื่อนั่งเรือเดินทางไปยัง “ท่าเรือเกาะพยาม” ต่อไป
3. การเดินทางโดยเครื่องบิน
การเดินทางด้วยเครื่องบินจากกรุงเทพ-ระนอง มีเพียงสายการบินนกแอร์เท่านั้นที่เปิดให้บริการเส้นทางนี้ หากจองช่วงโปรโมชั่นจะเสียค่าตั๋วบินประมาณ 800 บาทเท่านั้น
เมื่อนั่งมาถึงสนามบินระนองแล้ว การเหมารถตู้เพื่อเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองระนองจะสะดวกที่สุด ซึ่งจะคิดค่าบริการคนละ 200 บาท ซึ่งควร เหมารถตู้ ให้มาส่งที่ ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ แล้วนั่งเรือต่อไปยัง ท่าเรือเกาะพยาม
จอง หรือเช็คราคาเครื่องได้ง่าย ๆ กดเช็คตามลิงก์นี้เลยค่ะ >> เช็คราคาสายการบินนกแอร์
4. การเดินทางโดยรถไฟ
เวลาดีในการนั่งรถไฟจากกรุงเทพ-ระนอง นั่นก็คือช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม โดยมีปลายทางคือจังหวัดชุมพร ในราคาประมาณ 300-400 บาท ซึ่งจะถึงชุมพรในช่วงเช้าตี 4-5
จากนั้นแล้วให้นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไปที่ บขส.ชุมพร เพื่อนั่งรถทัวร์ไปสาย ชุมพร-ภูเก็ต อย่าลืมว่าต้องแวะลงที่จังหวัดระนองเท่านั้น เมื่อถึงบขส.ระนอง สามารถนั่งรถสองแถวเพื่อไปส่งยังท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ แล้วซื้อตั๋วเดินทางไปท่าเรือเกาะพยาม
back to menu ↑วิธีเดินทางท่องเที่ยวบน “เกาะพยาม”
ไหน ๆ ก็มาเที่ยวเกาะทั้งทีจะอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ไปดูธรรมชาติล้อมรอบตัวคงจะไม่ได้สินะคะ แหม่มเลยขอแนะนำวิธีเดินทางได้หลากหลายแบบให้ได้ชมธรรมชาติ ที่เที่ยวรอบเกาะได้ชิว ๆ กันค่ะ
เช่ามอเตอร์ไซค์
แหล่งเช่าอยู่บริเวณท่าเรือ มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดาและออโตเมติก คิดราคาเช่าวันละ 150-200 บาท และผู้เช่าต้องเติมน้ำมันเอง
เช่าจักรยาน
ร้านเช่าจักรยานจะหายากกว่าร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ เพราะไม่ค่อยนิยมสักเท่าไหร่นัก แหล่งเช่าอยู่บริเวณท่าเรือ ส่วนมากจะเป็นจักรยานเสือภูเขา ในราคาค่าเช่าวันละ 100-200 บาท
มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวก คุณสามารถเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากท่าเรือให้ไปส่งยังหาดต่าง ๆ บนเกาะพยามได้ คิดค่าโดยสารราคา 50-100 บาท เนื่องจากตามหาดต่าง ๆ ไม่มีวินรับจ้างประจำ เพื่อน ๆ จึงควรมีเบอร์วินมอเตอร์ไซค์ไว้เพื่อให้มารับค่ะ
รถอีแต๊ก / รถอีแต๋น
เป็นรถลากแบบชาวบ้าน สามารถโดยสารได้ถึง 6-8 คน คิดค่าบริการทั่วรอบเกาะพยาม 1,200 บาท ในเวลา 2-3 ชั่วโมง สอถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ท่าเรือ
ข้อมูลที่แหม่มนำมาฝากกันนี้ หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อทุกคนที่อยากจะมาเที่ยวเกาะพยามกันนะคะ มาแล้วจะไม่ผิดหวัง มีทั้ง วัดเกาะพยาม อ่าวหาดใหญ่ อ่าวกวางปีบ และอีกมากมายรอให้คุณได้มาสัมผัสธรรมชาติอันงดงามกันค่ะ โดยสามารถเที่ยวหลักร้อยแต่ได้วิว และบรรยากาศหลักล้านให้ได้พักผ่อนวันหยุดสดชื่นกันอย่างเต็มที่เลยค่ะ 🙂
