หนาวนี้ไม่พลาด!! ทริคถ่ายรูปหมอกให้ปัง สวยเหมือนช่างภาพมืออาชีพ

ช่วงนี้ใครมีแพลนขึ้นดอยไปสัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นกันบ้างคะ หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงหน้าหนาวก็คงหนีไม่พ้นภาคเหนือ ตามยอดดอยต่าง ๆ ชมวิวภูเขา สัมผัสหมอกจาง ๆ ถ่ายรูปกับธรรมชาติชิว ๆ วันนี้ แหม่มรีวิว มีทริคดี ๆ สำหรับการ ถ่ายรูปหมอก มาฝากค่ะ ไปเที่ยวทั้งทีอย่าให้เสียเที่ยว มาโพสท่าปัง ๆ กับบรรยากาศยามเช้า ลงโซเชียลเรียกยอดไลค์กันดีกว่าค่ะ

ตามหาหมอก

สถานที่แรก ๆ ที่คนจะนึกถึงก็คือบนยอดดอย หรือทางแถบภาคเหนือ ซึ่งหมอกมักจะเกิดขึ้นบนภูเขาสูง ยอดดอยต่าง ๆ ตามผืนน้ำ หมู่บ้านในต่างจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ถ้ามองตามหลักวิทยาศาสตร์หมอกจะเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนบวกกับอากาศหนาว บนยอดดอยบางที่สามารถมองเห็นเป็นทะเลหมอกได้เลย ใครที่อยากสัมผัสหมอกแบบจัดเต็มก็อาจจะต้องลงทุนขึ้นดอยไปตามหาโลเคชั่นเจ๋ง ๆ เพื่อเก็บภาพสวย ๆ สัมผัสบรรยากาศหนาวเย็นกันเลยค่ะ เช่น ภูชี้ฟ้า จังหวัด เชียงราย ภูทับเบิก จังหวัด เพชรบูรณ์ หรือกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ก็น่าสนใจนะคะ

หมอกมากี่โมง ?

ปกติแล้วช่วงเช้าตรู่จะเป็นช่วงนาทีทองสำหรับการถ่ายหมอกเลยค่ะ ตั้งแต่ช่วง ประมาณตี 4 ไปจนถึงเช้า บางครั้งหมอกอาจจะอยู่ยาวไปจนถึงช่วงสาย ๆ แล้วจะค่อย ๆ จางหายไปเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ใครไม่อยากพลาดก็ตั้งนาฬิกาปลุกกันไว้เลย

เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม

หากอยากได้ภาพหมอกสวย ๆ อุปกรณ์อาจจะต้องจัดเต็มกันสักหน่อย สำหรับช่างภาพมืออาชีพก็อาจจะมีขาตั้งกล้อง เลนส์ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ไปด้วย แต่ยุคสมัยนี้สมาร์ทโฟนก็สามารถถ่ายรูปออกมาได้สวยเหมือนกล้องถ่ายรูปเลย

1. ขาตั้งกล้อง หากต้องการถ่ายหมอกตอนเช้ามืด ช่วงที่ไม่ค่อยมีแสง จะต้องตั้งสปีดชัตเตอร์นาน ๆ ขาตั้งกล้องจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้เราได้ภาพหมอกสวย ๆ เลยล่ะค่ะ

2. เลนส์ ใครที่อยากถ่ายทะเลหมอก แนะนำให้ใช้เลนส์มุมกว้าง เพื่อเก็บรายละเอียดบรรยากาศอันสวยงาม ส่วนมากจะนิยมขึ้นไปถ่ายกันบนยอดดอยสูง ๆ ส่วนใครที่อยากได้ภาพหมอกหนา ๆ เห็นทั้งวิวเห็นทั้งคน แนะนำให้ใช้เลนส์ฟิกส์ หรือเลนส์ที่มีระยะใกล้ เพื่อให้ภาพคมชัดมากขึ้น

3. ฟิลเตอร์ PL (Polarizing Filter) ฟิลเตอร์ตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการตัดแสงสะท้อนของผิววัตถุที่ไม่ใช่โลหะ ไม่ว่าจะเป็นกระจก น้ำ หรือท้องฟ้า เพราะบางครั้งหมอกก็จะสะท้อนแสงแดดลงมา แถมยังช่วยทำให้ท้องฟ้าสีสันสดใสมากขึ้นกว่าเดิมด้วย

ถ่ายรูปกับหมอกยังไงให้สวยปัง

1. เลือกเสื้อผ้าสีสันสดใส

ในเมื่อวิวด้านหลังของเราเป็นธรรมชาติ ทะเลหมอก ป่าสีเขียว การเลือกเสื้อผ้าสีสันสดใสก็จะทำให้เราดูเด่น แทบไม่ต้องโพสท่าอะไรเลย ทำเป็นเดินชมวิวอยู่ท่ามกลางป่า หันหลังให้กล้อง ก็ดูเท่ไปอีกแบบค่ะ

2. ถ่ายย้อนแสงกับดวงอาทิตย์

กว่าจะได้ภาพนี้อาจจะต้องรอจังหวะกันนิดนึง เพราะเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นหมอกอาจจะค่อย ๆ จางหายไป เพราะฉะนั้นจังหวะต้องดี เพื่อให้ได้ทั้งแสงของดวงอาทิตย์และหมอกขาว ๆ ลอยอยู่เหนือทิวเขา รับรองว่าภาพนี้ปังแน่นอนค่ะ

3. ยืนถ่ายรูปท่ามกลางทะเลหมอก

ตามสถานที่ท่องเที่ยวมักจะจัดจุดชมวิวไว้เพื่อให้นักท่องเที่ยวมายืนถ่ายรูปทะเลหมอกกันได้อย่างจุใจ สำหรับคนที่อยากได้ภาพทีเผลอก็อาจจะต้องให้ช่างภาพแอบถ่ายตอนที่เรายืนชมวิว หรือกำลังถ่ายภาพทะเลหมอก แต่อาจจะต้องตื่นเช้านิดนึงนะคะ คนจะได้ไม่เยอะ ภาพที่ออกมาก็จะมีแค่เรากับวิวเท่านั้น

4. ไม่จำเป็นต้องถ่ายกับหมอกบนยอดดอย

แน่นอนว่าเช้าตรู่คนต้องแห่กันไปยืนอยู่บนยอดดอยเพื่อรอถ่ายรูปหมอก แต่อยากให้ลองมองไปรอบ ๆ ก่อนค่ะ เพราะว่าความสวยงามไม่ได้มีอยู่แค่บนยอดดอยเท่านั้น ละอองไอน้ำขาว ๆ ที่อยู่บนยอดปลายหญ้าก็สวยไม่แพ้กัน ยิ่งถ้ามีแสงอ่อน ๆ ของดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านเงาไม้เข้ามา บอกเลยว่าโรแมนติกสุด ๆ

5. จิบกาแฟบนยอดเขาท่ามกลางสายหมอก

เป็นมุมยอดฮิตสำหรับสายถ่ายรูปเลยก็ว่าได้ นั่งจิบกาแฟ พักผ่อนสบาย ๆ บนยอดเขา ชมบรรยากาศยามเช้า เป็นอีกหนึ่งภาพที่ควรมีเมื่อไปเที่ยวเขาเลยค่ะ

มีทริคดี ๆ แล้วพร้อมเก็บกระเป๋าไปเที่ยวกันหรือยังคะ หน้าหนาวนี้ที่ทุกคนรอคอย ซึ่งนาน ๆ จะมีสักครั้ง ต้องออกไปเก็บบรรยากาศกันไว้แล้ว อย่าลืมเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยนะคะ ที่สำคัญต้องเช็คสภาพอากาศให้ดีด้วย หากไปแล้วไม่เจอหมอกจะได้เปลี่ยนแผนทันค่ะ

อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัพเดทสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง