รีวิว 8 โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีสุด – จุดเด่นแต่ละยี่ห้อ ราคา อัปเดต 2025

สาว ๆ จ๋าาาาาาา! วันนี้ แหม่มรีวิว ขอพาไปเมาท์มอยเรื่องความสวยความงามกันบ้างดีกว่า ใครกำลังคิดจะทำโบท็อกซ์แต่ยังลังเลไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี ตามมาทางนี้เลยจ้าาาาา เพราะเรามีแหม่มมา รีวิวโบท็อกซ์ 8 ยี่ห้อ ที่เขาว่าดีมาแนะนำกัน แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นยังไง ราคาเท่าไหร่ เหมาะกับใครบ้าง มาอ่านกันเลย!

โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีสุด

การเลือกโบท็อกซ์ที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายใช่ไหมล่ะคะ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการให้ผลลัพธ์ออกมาดูดี และปลอดภัยที่สุด แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ วันนี้แหม่มมีข้อมูลโบท็อกซ์ยี่ห้อต่าง ๆ มาฝากกัน โดยแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องของประเทศผู้ผลิต คุณสมบัติ ราคา และกลุ่มเป้าหมายว่า ใครควรเลือกยี่ห้อไหน ที่เหมาะสมกับตัวเอง มาดูกันดีกว่าว่ามียี่ห้อไหนบ้างและแต่ละยี่ห้อเหมาะกับใครกันบ้าง!

รีวิว โบท็อกซ์ยี่ห้อไหนดีสุด - จุดเด่นแต่ละยี่ห้อ ราคา ซ่อน

Allergan (โบท็อกซ์)

Allergan Botox เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก ถือเป็น ยี่ห้อแรกที่ได้รับการอนุมัติ จากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ให้ใช้ในการรักษารอยขมวดคิ้ว ถือได้ว่า Allergan Botox เป็นแบรนด์แรกที่ถูกนำมาใช้ในวงการเสริมความงามอย่างเป็นทางการ ผลิตโดยบริษัท Allergan ซึ่งเป็นบริษัทยาที่มีชื่อเสียงและเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์เสริมความงามหลายตัว เช่น ฟิลเลอร์ Juvederm และเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting

-โฆษณา-

โบท๊อกซ์ Allergan เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: สหรัฐอเมริกา
  • จุดเด่น: ยี่ห้อนี้เป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลก เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA และมีผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 4-6 เดือน เหมาะกับการลดริ้วรอย ลดขนาดกราม และยกกระชับหน้า
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลิฟต์กรอบหน้าเพื่อยกกระชับเหนียงคอ
    • การฉีดลดกรามหรือปรับรูปหน้า
    • การลดริ้วรอยต่าง ๆ เช่น ริ้วรอยระหว่างคิ้ว (Glabellar lines) ริ้วรอยหน้าผาก และริ้วรอยตีนกา
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  • ราคา: ประมาณ 12,000 – 20,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่นานและปลอดภัยสูงสุด

Dysport

Dysport เป็นโบท็อกซ์จากประเทศอังกฤษ มีสารที่ใช้คือ abobotulinumtoxin A ซึ่งมีโครงสร้าง โมเลกุลเล็กกว่าโบท็อกซ์จากอเมริกา ทำให้ยากระจายตัวเป็นวงกว้าง เมื่อฉีดแล้วจะไม่กระจุกตัวในพื้นที่แคบ ให้ความเป็นธรรมชาติ และเห็นผลได้เร็ว ผลิตโดยบริษัท IPSEN BIOPHARM LIMITED และนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท กัลเดอร์มา ประเทศไทย

โบท๊อกซ์ Dysport เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: สหราชอาณาจักร
  • จุดเด่น: กระจายตัวได้ดีทำให้ดูเป็นธรรมชาติ สามารถใช้ได้กับบริเวณที่กว้าง เช่น หน้าผาก เห็นผลภายใน 2-3 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลิฟต์กรอบหน้า
    • การฉีดลดริ้วรอยแบบไม่ตึงเกินไป เช่น บริเวณระหว่างคิ้ว (Glabellar lines)
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น กล้ามเนื้อต้นแขน น่องขา
    • การลดเหงื่อบริเวณรักแร้และฝ่ามือ
  • ราคา: ประมาณ 10,000 – 18,000 บาท ต่อ 300 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นธรรมชาติ และต้องการเห็นผลเร็ว

Xeomin

Xeomin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเยอรมัน มีสารที่ใช้คือ incobotulinumtoxin A ผลิตโดยบริษัท MERZ PHARMA GMBH & CO. KGaA โดยใช้เทคโนโลยี XTRACT Technology ในกระบวนการผลิต ทำให้ไม่มีการปนเปื้อนของโปรตีน จึงมีความบริสุทธิ์สูงและ โอกาสดื้อยาน้อย  ขนาดโมเลกุลของโบท็อกซ์เล็กเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ แต่ยังคงมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการทำงานของระบบประสาทได้ดี นำเข้าประเทศไทยโดย Merz Aesthetics จำกัด

โบท๊อกซ์ Xeomin เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: เยอรมนี
  • จุดเด่น: โบท็อกซ์ชนิดนี้ไม่มีโปรตีนเจือปน ทำให้ลดความเสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกซ์ และมีความบริสุทธิ์สูง เห็นผลภายใน 4-7 วัน และอยู่ได้นาน 3-4 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลิฟต์กรอบหน้า
    • การลดกราม
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่องและแขน
  • ราคา: ประมาณ 9,000 – 15,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่เคยฉีดโบท็อกซ์มาก่อนและกลัวการดื้อโบท็อกซ์

Nabota

Nabota Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลีที่ใช้เทคโนโลยีเฉพาะ HI-PURE Technology ทำให้มีความบริสุทธิ์สูงและโอกาสดื้อยาน้อย นอกจากนี้ Nabota Botox ยัง ออกฤทธิ์ค่อนข้างไว จึงได้รับความนิยมอย่างหลากหลายทั้งในประเทศไทย เกาหลี อเมริกา และโซนยุโรป โดยเป็นโบท็อกซ์เกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจาก USFDA (U.S. Food and Drug Administration) ผลิตโดยบริษัท Daewoong Pharmaceutical

โบท๊อกซ์ Nabota เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: เกาหลีใต้
  • จุดเด่น: โบท็อกซ์ที่มาแรงจากเกาหลี มีประสิทธิภาพในการยกกระชับและลดริ้วรอย เห็นผลเร็วภายใน 3-5 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลดกราม
    • การลิฟต์กรอบหน้า
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดกล้ามเนื้อน่องขาและแขน
  • ราคา: ประมาณ 8,000 – 14,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลเร็วและราคาย่อมเยา

Botulax

Botulax เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท Hugel Inc. Botulax มีความนิยมสูงในวงการเสริมความงาม เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าใน ราคาที่ย่อมเยา เป็นที่รู้จักในเรื่องของการเห็นผลลัพธ์เร็วและมีความปลอดภัยสูง

โบท๊อกซ์ Botulax เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: เกาหลีใต้
  • จุดเด่น: ราคาประหยัด แต่ยังคงประสิทธิภาพสูง เห็นผลภายใน 3-5 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลดกราม
    • การลิฟต์กรอบหน้า
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน และลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  • ราคา: ประมาณ 6,000 – 12,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่มีงบจำกัดแต่ต้องการผลลัพธ์ที่ดี

Hugel

Hugel Botox เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Hugel Inc. และนำเข้าและจัดจำหน่ายในประเทศไทยโดยบริษัท บอน-ซอง จำกัด Hugel Botox เป็นที่รู้จักกันดีในวงการเสริมความงาม เนื่องจากมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง

โบท๊อกซ์ Hugel เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: เกาหลีใต้
  • จุดเด่น: โบท็อกซ์คุณภาพสูงจากเกาหลี มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและยกกระชับ เห็นผลเร็วภายใน 3-5 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอย
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลดกราม
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน และลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  • ราคา: ประมาณ 7,000 – 13,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุณภาพและราคาสมเหตุสมผล

Meditoxin

Meditoxin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศเกาหลี ผลิตโดยบริษัท Medytox Inc. ซึ่งมีชื่อเสียงในวงการเสริมความงาม Meditoxin ได้รับการรับรองจากหลายประเทศ และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย

โบท๊อกซ์ Meditoxin เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: เกาหลีใต้
  • จุดเด่น: เป็นโบท็อกซ์ที่ได้รับการยอมรับในหลายประเทศ มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและยกกระชับ เห็นผลภายใน 3-5 วัน และอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลดกราม
    • การลิฟต์กรอบหน้า
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน และลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  • ราคา: ประมาณ 7,000 – 12,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการโบท็อกซ์คุณภาพดีและราคาไม่แพง

Neuroxin

Neuroxin เป็นโบท็อกซ์จากประเทศจีน ผลิตโดยบริษัท Lanzhou Institute of Biological Products Co., Ltd. Neuroxin มีความโดดเด่นในเรื่องของราคาที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการโบท็อกซ์ คุณภาพดีในราคาประหยัด และยังมีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับรูปหน้าได้ดี

โบท๊อกซ์ Neuroxin เหมาะกับใคร

  • ประเทศผลิต: จีน
  • จุดเด่น: ราคาประหยัดที่สุด เห็นผลเร็วภายใน 3-5 วัน และอยู่ได้นาน 3-4 เดือน
  • เหมาะสำหรับ:
    • การฉีดลดริ้วรอยทั่วใบหน้า
    • การปรับรูปหน้าเรียว
    • การลดกราม
    • การลิฟต์กรอบหน้า
    • การฉีดเฉพาะจุด เช่น ลดขนาดกล้ามเนื้อน่อง แขน และลดเหงื่อบริเวณรักแร้
  • ราคา: ประมาณ 5,000 – 10,000 บาท ต่อ 100 ยูนิต
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับผู้ที่ต้องการประหยัดงบและไม่ได้ต้องการผลลัพธ์ที่ยาวนานมาก

เป็นยังไงบ้างจ๊ะสาว ๆ! หลังจากที่ได้เมาท์มอยเรื่องโบท็อกซ์ 8 ยี่ห้อนี้ไปแล้ว หวังว่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะจ๊ะ ว่าแต่ใครมีประสบการณ์หรือคำแนะนำดี ๆ อะไรบ้าง ก็มาแชร์กันได้นะคะ เพราะเรื่องความสวยความงาม เราต้องช่วยกันค่ะ เพื่อนหญิงพลังหญิง ไว้ครั้งหน้า แหม่มรีวิว มีบทความดี ๆ อะไรอีกจะมาแนะนำ และส่งต่อให้เพื่อน ๆ ห้ามพลาด


อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัปเดตสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง

แหม่มรีวิว
Logo