สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ สายมูทุกคน! ได้เวลาที่เราจะเตรียมตัวเดินทางไปยังสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย “เขาคิชฌกูฏ” จันทบุรีกันอีกครั้ง! แหม่มรีวิว ตัวแม่สายมู ขออัปเดตข้อมูลใหม่ล่าสุด ปี 2568 ให้ทุกคนได้เตรียมตัวก่อนใคร ทั้งกำหนดการ วิธีจองคิว และวิธีเดินทางไปยังยอดเขาพระบาทพลวง พร้อมแล้ว ไปกันเลย!
ใครที่พลาดปีที่แล้วอย่าเพิ่งเสียใจนะคะ เพราะปีนี้เขาคิชฌกูฏเปิดให้สักการะตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงมีนาคม ไม่เพียงแต่ได้สัมผัสความศักดิ์สิทธิ์ของรอยพระพุทธบาท แต่ยังได้ชื่นชมธรรมชาติที่งดงามรอบ ๆ อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏด้วย เตรียมรองเท้าคู่ใจให้พร้อม แล้วไปเดินเท้าสู่ยอดเขากันค่ะ!
ความเป็นมาของเขาคิชฌกูฏ ทำไมทุกคนต้องไป?
เขาคิชฌกูฏเป็นสถานที่ที่สายบุญและนักแสวงบุญจากทั่วทุกสารทิศต้องเดินทางมาเยือนอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตค่ะ เพราะบนยอดเขาพลวงมีรอยพระพุทธบาทที่อยู่สูงที่สุดในประเทศไทย สูงกว่า 1,050 เมตรจากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าเป็นรอยพระพุทธบาทที่มีความสำคัญทั้งทางศาสนาและวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทยมาอย่างยาวนาน
รอยพระพุทธบาทมีลักษณะเป็นรอยลึกบนแผ่นหินใหญ่ กว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร เชื่อกันว่าใครได้สักการะที่นี่จะได้รับพลังใจและความเป็นสิริมงคล กลับไปเริ่มต้นปีใหม่อย่างมั่นคงและสดใสเลยค่ะ
กำหนดการ เปิดเขาคิชฌกูฏ 2568
เริ่มเปิดให้สักการะวันที่ 29 มกราคม – 29 มีนาคม 2568 ใครที่รอคอยเตรียมตัวได้เลยค่ะ โดยปีนี้มีการแบ่งรอบเวลาสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างชัดเจนเพื่อบริหารจัดการความหนาแน่น ได้แก่:
- รอบที่ 1: 00.00 – 06.00 น.
- รอบที่ 2: 06.00 – 12.00 น.
- รอบที่ 3: 12.00 – 18.00 น.
- รอบที่ 4: 18.00 – 24.00 น.
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะถูกจำกัดจำนวนไม่เกิน 6,000 คนต่อช่วงเวลา เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศที่สงบและเหมาะสมกับการสักการะค่ะ
จุดหมายอยู่ที่ศรัทธา
พระบาทเขาคิชฌกูฏ เป็นสถานที่ที่ผู้คนจากทั่วทุกมุมประเทศเดินทางมาเพื่อสักการะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นจุดสำคัญของประเพณีศาสนาไทย รอยพระพุทธบาทที่ตั้งอยู่บนหินแผ่นใหญ่ ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่เคารพนับถือของชาวไทยทั้งในและต่างประเทศ เชื่อกันว่าผู้ที่ได้เดินทางมานมัสการรอยพระพุทธบาทนี้จะได้รับพรและความโชคดีในชีวิต ไม่เพียงแค่การสักการะทางกาย แต่ยังเป็นการเปิดประตูสู่พลังแห่งศรัทธาในจิตใจที่จะนำไปสู่ความสงบและความสุขในชีวิตอย่างแท้จริง
การเดินทางมาถึงรอยพระพุทธบาทไม่ใช่แค่การเดินทางทางกายภาพ แต่ยังเป็นการเดินทางทางจิตใจที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความมุ่งมั่น ผู้ที่มาที่นี่ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินขึ้นเขา แต่ทุกก้าวที่ก้าวไปเต็มไปด้วยพลังแห่งความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งช่วยเติมเต็มชีวิตให้สมบูรณ์ ด้วยพลังแห่งความเชื่อและการขอพรที่ไม่ใช่เพียงแค่สิ่งที่มองเห็น แต่เป็นสิ่งที่สถิตอยู่ในใจที่ไม่เคยจางหายไป ความศรัทธาที่ได้รับจากการสักการะนี้จึงกลายเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นคงและมีความสุขค่ะ
วิธีการจองคิวขึ้นเขาคิชฌกูฏ 2568
ปีนี้สะดวกสุดๆ ค่ะ เพราะเราสามารถจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน KCKQue (พระบาทเขาคิชฌกูฏ) ได้เลย โดยเปิดให้จองล่วงหน้า และสามารถเลือกได้ว่าจะขึ้นเขาด้วยรถบริการหรือเดินเท้าค่ะ การจองคิวช่วยลดความวุ่นวายและทำให้ทุกคนได้มีเวลาในการสักการะอย่างเต็มที่ค่ะ
ขั้นตอนจองคิวผ่านแอป KCKQue:
- ดาวน์โหลดแอป KCK
Que จาก App Store หรือ Google Play - ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ
- เลือกเมนู “จองคิวขึ้นเขา”
- ระบุรูปแบบการขึ้นเขา (เดินเท้าหรือรถบริการ)
- เลือกวันและเวลาที่ต้องการ
- กรอกข้อมูลผู้เดินทางและยืนยันการจอง
- รับ QR Code เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ในวันเดินทางค่ะ
ที่ตั้งอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ
อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ ตั้งอยู่ที่ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 40 กิโลเมตรค่ะ สภาพป่าในอุทยานยังคงความอุดมสมบูรณ์ มีน้ำตกสวยงามหลายแห่ง เช่น น้ำตกกระทิง น้ำตกคลองช้างเซ และน้ำตกคลองกระสือ อีกทั้งยังมีพันธุ์ไม้หายากและสัตว์ป่ามากมาย
ข้อมูลเพิ่มเติมเขาคิชฌกูฏ
- ที่ตั้ง : ถนนบำราศนราดูร ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
- พิกัด : https://goo.gl/maps/JJoqYTURPJsBHXyk8
- ติดต่อ : 08-3034-8835, 09-7954-1650
วิธีการเดินทางไปเขาคิชฌกูฏ สไตล์แหม่มรีวิว
โดยรถยนต์ส่วนตัว: ถ้าขับรถไปเอง ง่ายมากค่ะ! ใช้ถนนสุขุมวิท พอถึงแยกเขาไร่ยา ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3249 ขับต่อไปอีกประมาณ 24 กิโลเมตร คุณก็จะถึงอุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ แต่ถ้าคุณเริ่มจากตัวอำเภอเมืองจันทบุรี ให้ขับผ่านแยกเขาไร่ยา ใช้เส้นทางเดียวกัน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร แต่ที่สำคัญคือ ทางขึ้นเขาพระบาทพลวง จะอยู่คนละจุดกับอุทยานฯ นะคะ ต้องจำไว้! เมื่อถึงวัดพระบาทพลวง ให้จอดรถส่วนตัวที่ลานจอด (มีบริการลานจอดใหญ่โต) แล้วต่อรถบริการขึ้นเขาค่ะ
รถโดยสาร: สำหรับคนที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ไม่ต้องกังวลค่ะ! ขึ้นรถโดยสารสายกรุงเทพฯ – จันทบุรี จากสถานีเอกมัยหรือหมอชิต ลงรถที่ขนส่งจันทบุรี จากนั้นคุณสามารถเหมารถสองแถวไปยังเขาคิชฌกูฏได้ ราคาต่อรองกันได้เลย หรือจะประหยัดหน่อย นั่งรถสองแถวสีฟ้าสายจันทบุรี – จันทเขลม ซึ่งจะผ่านที่ทำการไปรษณีย์ท่าแฉลบ แล้วก็ไปต่อที่เขาคิชฌกูฏได้เลยค่ะ
ขึ้นเขา: พอมาถึงเขาคิชฌกูฏแล้วนะคะ คุณมี 2 ตัวเลือกค่ะ:
- เดินเท้าขึ้น: ใช้เวลา 3-6 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความฟิตของแต่ละคนค่ะ
- รถสองแถวบริการ: แหม่มแนะนำเลยค่ะ เพราะสะดวกสุด ๆ ออกจากวัดพลวงไปถึงบริเวณทางขึ้นยอดเขาพระบาท รถบริการจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ค่าโดยสารช่วงละ 50 บาท/คน (รวมไป-กลับ 200 บาท) ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ มีบริการตลอด 24 ชั่วโมงเลย สะดวกแบบนี้ ไม่ต้องห่วงเรื่องเวลาแน่นอนค่ะ!
ใครชอบแบบลุย ๆ เดินเท้าก็สนุกไปอีกแบบ แต่ถ้าอยากถึงเร็ว ๆ แนะนำใช้รถสองแถวดีกว่าค่ะ ประหยัดเวลาไปอีกเยอะ!
อัตราค่าบริการสำหรับบุคคล
- บุคคลชาวไทย: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
- บุคคลชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
ส่วนค่าบริการรถขึ้นเขาอยู่ที่ 50 บาทต่อเที่ยว หรือ 200 บาทสำหรับไป-กลับค่ะ
เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม
- ศูนย์อำนวยการงานประเพณีฯ อุทยานแห่งชาติเขาคิยณกูฏ โทร. 0842328159
- คุณยงยุทธ -ประชาสัมพันธ์คิวรกเขาคิชญกูฏ โทร. 0847011709
- คุณทีม – ประชาสัมพันธ์คิวรถเขาคิชญกูฏ โทร. 0988477718
- คุณท็อป – ประชาสัมพันธ์คิวรคิวรถเขาคิขญกูฏ โทร. 0830348835
- คุณยุ้ย – ประชาสัมพันธ์คิวรกวัดกระทิง โทร. 0624957898
สายมูทั้งหลายไม่ควรพลาดงานบุญยิ่งใหญ่แห่งปีที่เขาคิชฌกูฏ 2568 นี้นะคะ แหม่มรีวิวรับประกันว่าใครได้ไปจะต้องอิ่มบุญ อิ่มใจ และได้รับพลังใจดี ๆ กลับมาสู่ชีวิตค่ะ แล้วอย่าลืมถ่ายรูปมาอวดเพื่อน ๆ ในโซเชียลด้วยนะคะ ส่วนใครที่อยากพักผ่อนแถวเขาคิชฌกูฏ สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ “ที่พักเขาคิชฌกูฏ จันทบุรี 2568 [ล่าสุด] สักการะรอยพระพุทธบาท” และถ้าชอบบทความนี้อย่าลืมกดแชร์ และเตรียมตัวไปสักการะรอยพระพุทธบาทด้วยกันนะคะ!
อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัปเดตสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง