สวัสดีค่าทุกคน~ แหม่มรีวิว มาแล้วจ้า! วันนี้แหม่มมีเรื่องดี ๆ มาแชร์ให้เพื่อน ๆ ฟังกัน รู้มั้ยคะว่าตอนนี้ YouTube เค้าเปิดฟีเจอร์ใหม่แล้วนะคะ ที่ทำให้เรา สามารถปักตะกร้าขายของ ได้เหมือน TikTok เลย! เรียกว่าเป็นข่าวดีสำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางสร้างรายได้เสริมแบบเนียน ๆ
แหม่มไปเห็นฟีเจอร์นี้มา แล้วต้องบอกเลยว่าเจ๋งมาก ๆ ค่ะ! เพราะนอกจากจะได้รายได้จากยอดวิวแล้ว ยังมีโอกาสได้ค่าคอมมิชชันจากการขายของด้วย วันนี้เลยอยากมา แชร์ประสบการณ์ ให้เพื่อน ๆ ได้รู้กัน ว่าจะเริ่มต้นยังไง มีเงื่อนไขอะไรบ้าง แล้วจะสร้างรายได้จากตรงนี้ได้มากแค่ไหน
ปักตะกร้า Youtube คืออะไร?
ปักตะกร้า YouTube หรือ YouTube Shopping เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดที่ทำให้เราสามารถขายของผ่าน YouTube ได้แบบครบวงจรเลยค่ะ! เหมือนกับว่าเราเอาร้านค้าออนไลน์มาแปะไว้ในคลิปวิดีโอนั่นเอง โดยคนดูสามารถกดซื้อสินค้าได้ทันทีขณะดูคลิป ไม่ต้องออกไปหาลิงก์ที่ไหนให้วุ่นวาย สะดวกมาก ๆ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ นะคะ สมมติแหม่มกำลังรีวิวครีมบำรุงผิว พอแหม่มพูดถึงครีมตัวไหน ก็จะมีไอคอนรูปตะกร้าปรากฏขึ้นมาที่หน้าจอเลย คนดูแค่กดที่ตะกร้านั้น ก็จะลิงก์ไปที่หน้าร้านใน Shopee ได้ทันที แถมยังซื้อได้เลยโดยที่ไม่ต้องออกจากคลิปด้วยนะ เรียกว่าช็อปปิ้งได้แบบไม่สะดุดการรับชมกันเลยทีเดียว!
ที่เจ๋งไปกว่านั้นคือ YouTube เค้าจับมือกับ Shopee เป็นพาร์ทเนอร์หลักในไทย ทำให้เราสามารถ
- เลือกสินค้าจาก Shopee มาปักตะกร้าในคลิปได้ง่าย ๆ
- รับค่าคอมมิชชันจากการขายสินค้าผ่านลิงก์ของเรา
- ติดตามยอดขายและรายได้ได้แบบเรียลไทม์
- มีระบบการจ่ายเงินที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ
แหม่มว่าฟีเจอร์นี้ตอบโจทย์มาก ๆ เพราะจากผลสำรวจล่าสุดพบว่า คนดู YouTube ถึง 87% บอกว่าใช้ YouTube ช่วยตัดสินใจซื้อของ และ 93% รู้สึกมั่นใจในสินค้ามากขึ้นหลังดูรีวิวใน YouTube นี่เลยเป็นโอกาสทองสำหรับครีเอเตอร์อย่างเรา ๆ ที่จะสร้างรายได้เพิ่มนอกจากรายได้จากยอดวิวปกติ
และที่พิเศษสุด ๆ คือ ประเทศไทยเราเป็นประเทศที่ 4 ของโลก ที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้! ตามหลังแค่อเมริกา เกาหลี และอินโดนีเซียเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าตลาดออนไลน์บ้านเรามีศักยภาพสูงมากๆ ทาง YouTube เค้าถึงได้เลือกเปิดตัวที่ไทยเร็วขนาดนี้
แตกต่างจากปักตะกร้า TikTok ยังไง?
เพื่อน ๆ หลายคนที่เคยใช้ TikTok Shop อาจจะสงสัยว่า แล้วมันต่างจาก YouTube Shopping ยังไง? แหม่มขอเล่าให้ฟังแบบละเอียดเลยนะคะ
1. อายุการใช้งานของคอนเทนต์ : TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่คอนเทนต์มีการหมุนเวียนเร็วมาก วันนี้ไวรัล พรุ่งนี้อาจจะหายไปแล้ว แต่สำหรับ YouTube นี่สิคะ คลิปของเราอยู่ได้นานมาก! บางคลิปอาจจะขายของได้เป็นปี ๆ เลยทีเดียว เพราะระบบ Search ของ YouTube ดีมาก คนสามารถค้นเจอคลิปเราได้ตลอด ถ้าทำ SEO ดี ๆ ก็เหมือนมีร้านค้าที่เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมงเลยล่ะค่ะ
2. รูปแบบการสร้างรายได้ TikTok Shop จะเน้นการขายสินค้าโดยตรง แต่ YouTube นี่ฉลาดกว่า เค้าให้เราเลือกได้ว่าจะขายยังไง
- จะขายสินค้าของเราเองก็ได้ เชื่อมกับร้านค้าออนไลน์ของเราโดยตรง
- หรือจะเข้าร่วม Affiliate กับ Shopee รับค่าคอมมิชชันก็ได้ สบายๆ ไม่ต้องสต็อกของเอง
- แถมยังได้รายได้จากยอดวิว ยอดกดไลค์ปกติด้วยนะคะ ได้รายได้หลายทาง!
3. ระบบวิเคราะห์ข้อมูล
ตรงนี้แหม่มว่า YouTube เค้าเจ๋งมาก ๆ เพราะมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ละเอียดกว่า TikTok เยอะ เราสามารถดูได้ว่า
- คนดูกดเข้าไปดูสินค้าตอนไหนของคลิปมากที่สุด
- สินค้าไหนมีคนสนใจคลิกเข้าไปดูเยอะ
- ช่วงเวลาไหนขายดี กลุ่มคนดูเป็นใครบ้าง
- ทำให้เราวางแผนการขายได้แม่นยำขึ้นค่ะ
4. พฤติกรรมผู้ชม : คนดู YouTube จะมีความตั้งใจดูสูงกว่า TikTok นะคะ เพราะส่วนใหญ่เค้าเข้ามาเพื่อหาข้อมูลสินค้าจริง ๆ ไม่ได้แค่เลื่อนดูเพลิน ๆ เหมือน TikTok ทำให้โอกาสขายของได้สูงกว่า โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องให้ข้อมูลเยอะ ๆ เช่น เครื่องสำอาง อาหารเสริม หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า
5. ความน่าเชื่อถือ : YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่มานาน คนรู้สึกว่าน่าเชื่อถือกว่า TikTok ในแง่ของการรีวิวสินค้า จากสถิติพบว่า 93% ของคนดูบอกว่าข้อมูลใน YouTube ทำให้เค้ามั่นใจในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ เลยล่ะค่ะ
6. เครื่องมือการขาย : YouTube มีเครื่องมือที่หลากหลายกว่า เราสามารถปักตะกร้าได้ทั้งในคลิปปกติ คลิป Shorts และระหว่างไลฟ์สตรีม แถมยังวางลิงก์สินค้าในคำอธิบายใต้คลิป ใส่การ์ดแนะนำสินค้า หรือแม้แต่ทำ End Screen ที่มีลิงก์สินค้าก็ได้ด้วยค่ะ
แหม่มมองว่าทั้งสองแพลตฟอร์มต่างก็มีจุดเด่นของตัวเอง แต่ถ้าใครอยากสร้างธุรกิจออนไลน์แบบยั่งยืน YouTube Shopping น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า เพราะคอนเทนต์อยู่ได้นาน ระบบวิเคราะห์ข้อมูลดี แถมยังสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่าด้วยค่ะ
เงื่อนไขการปักตะกร้า Youtube ต้องทำยังไงบ้าง?
เพื่อนๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะเริ่มต้นยังไง แหม่มจะเล่าให้ฟังแบบละเอียดเลยค่า ว่าเราต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้างถึงจะปักตะกร้าได้
สำหรับการปักตะกร้าทั่วไป 🛍️
เริ่มจากข้อแรกเลยนะคะ ช่องของเราต้องผ่านเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
แบบที่ 1 – เน้นคอนเทนต์ปกติ:
- มีผู้ติดตามอย่างน้อย 1,000 คน และ
- มีเวลารับชมวิดีโอรวม 4,000 ชั่วโมงใน 12 เดือนที่ผ่านมา
แบบที่ 2 – เน้น Shorts:
- มีผู้ติดตาม 1,000 คนขึ้นไป และ
- มียอดวิว Shorts 10 ล้านครั้งใน 90 วันที่ผ่านมา
สำหรับโปรแกรม Affiliate กับ Shopee 🛒
นี่เป็นส่วนที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะเราจะได้ค่าคอมมิชชันด้วย! แต่เงื่อนไขจะเข้มข้นกว่านิดนึงนะคะ
เงื่อนไขพื้นฐาน:
- ต้องมีผู้ติดตามมากกว่า 10,000 คน
- ต้องอยู่ในโปรแกรม YouTube Partner Program (YPP) แล้ว
เงื่อนไขเกี่ยวกับช่อง:
- ช่องต้องไม่ใช่ช่องเพลง
- ไม่ใช่ช่องศิลปินอย่างเป็นทางการ
- ไม่ใช่ช่องที่เกี่ยวข้องกับค่ายเพลง หรือผู้จัดจำหน่ายเพลง
คุณสมบัติ:
- วิดีโอในช่องต้องไม่ถูกตั้งค่าเป็น “สร้างสำหรับเด็ก”
- ต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไป
- มีบัญชี Shopee ที่ยืนยันตัวตนแล้ว
💡 TIP จากแหม่ม: ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่ถึงเกณฑ์ Affiliate ก็เริ่มจากการปักตะกร้าทั่วไปก่อนได้นะคะ แล้วค่อยๆ สะสมยอดผู้ติดตามไปเรื่อยๆ
วิธีการปักตะกร้า Youtube ทำได้ง่ายนิดเดียว!
มาถึงส่วนที่ทุกคนรอคอย! แหม่มจะสอนวิธีปักตะกร้าแบบละเอียดยิบเลยค่า ทำตามได้เลยนะคะ
ขั้นตอนที่ 1: เตรียมพร้อมก่อนเริ่ม 🔍
- เข้า YouTube Studio: ล็อกอินเข้าบัญชี YouTube ของเรา คลิกที่รูปโปรไฟล์มุมขวาบน เลือก “YouTube Studio”
- ตรวจสอบคุณสมบัติ: ดูว่าช่องเราผ่านเงื่อนไขที่กล่าวไปข้างต้นหรือยัง เช็คว่าไม่มีการละเมิดนโยบายของ YouTube
ขั้นตอนที่ 2: เปิดใช้งานฟีเจอร์ Shopping 🛍️
- ไปที่เมนู “สร้างรายได้”: อยู่แถบเมนูด้านซ้าย เลื่อนหาจนเจอคำว่า “สร้างรายได้”
- เข้าสู่ส่วน Shopping: คลิกที่แท็บ “Shopping”
- เลือกวิธีที่ต้องการ: “เข้าร่วมโปรแกรม Affiliate” หรือ “เชื่อมต่อร้านค้า”
ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่าการใช้งาน ⚙️
สำหรับ Affiliate Shopee:
- กดปุ่ม “เข้าร่วมโปรแกรม Affiliate”
- ล็อกอินบัญชี Shopee
- ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลง
- รอระบบตรวจสอบคุณสมบัติ (ใช้เวลาไม่เกิน 24 ชั่วโมง)
สำหรับร้านค้าของตัวเอง:
- เลือก “เชื่อมต่อร้านค้าของคุณ”
- กรอกข้อมูลร้านค้า
- อัปโหลดเอกสารที่จำเป็น (ถ้ามี)
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มปักตะกร้าในคลิป 🎯
- เลือกคลิปที่ต้องการ: ไปที่แท็บ “เนื้อหา” เลือกวิดีโอที่ต้องการปักตะกร้า คลิก “แก้ไข”
- เพิ่มสินค้า: เลื่อนหาเมนู “ผลิตภัณฑ์” ด้านขวา คลิก “เพิ่มผลิตภัณฑ์” ค้นหาสินค้าที่ต้องการจาก Shopee ลือกจุดในวิดีโอที่ต้องการให้สินค้าปรากฏ
- ตั้งค่าการแสดงผล: กำหนดเวลาที่สินค้าจะปรากฏ เลือกตำแหน่งที่จะแสดงตะกร้า ปรับแต่งข้อความประกอบ (ถ้ามี)
เรื่องรายได้ที่ต้องรู้! (อ่านให้ดีๆ นะคะ) 💰
เพื่อน ๆ หลายคนคงสงสัยใช่มั้ยคะว่าจะได้เงินเท่าไหร่ แล้วได้เมื่อไหร่ แหม่มขอแยกอธิบายให้ชัด ๆ เลยนะคะ
📌 ระบบการจ่ายเงิน
- ระยะเวลารอรับเงิน ต้องรอ 60 วันหลังจากมีคนซื้อสินค้า ทำไมต้องรอ? เพราะต้องรอดูว่าลูกค้าจะคืนของมั้ย หรือมีปัญหาอะไรมั้ย เงินจะเข้าพร้อมกับรายได้ YouTube ปกติเลยค่ะ
- โปรโมชันพิเศษที่ห้ามพลาด! 🎉 6 เดือนแรกนี้ได้ค่าคอมฯ เต็ม 100% เลยนะคะ YouTube ไม่หักส่วนแบ่งใด ๆ ทั้งสิ้น หลัง 6 เดือนอาจมีการเปลี่ยนแปลง (แหม่มจะมาอัปเดตให้แน่นอนค่ะ)
💸 ค่าคอมมิชชันเป็นยังไง?
- แต่ละร้านค้าให้ไม่เท่ากัน บางร้านให้ 3% บางร้านให้สูงถึง 10% ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าด้วยนะคะ
- วิธีดูค่าคอมฯ ตอนเลือกสินค้าจะเห็นเปอร์เซ็นต์ชัดเจน เลือกสินค้าที่ให้ค่าคอมฯ สูงๆ ก็ยิ่งดีค่ะ แนะนำให้จดบันทึกไว้ว่าสินค้าไหนให้ค่าคอมฯ เท่าไหร่
📊 วิธีเช็คยอดรายได้
- เข้า YouTube Studio
- ไปที่เมนู “การวิเคราะห์”
- เลือกดูที่ “รายได้”
- จะเห็นยอดแยกชัดเจนระหว่างรายได้จากโฆษณาและจากการขายสินค้า
ระบบรายงานละเอียดมาก ดูได้ว่าขายอะไรไปบ้าง ยอดคลิกกี่ครั้ง มีคนซื้อจริงกี่คน ค่าคอมฯ รวมเท่าไหร่
สุดท้ายนี้ แหม่มรีวิว อยากบอกว่านี่เป็นโอกาสทองจริง ๆ นะคะ เพราะนอกจากจะได้รายได้จาก YouTube ปกติแล้ว ยังมีโอกาสได้รายได้เพิ่มจากการขายของด้วย แถมตอนนี้ยังได้ค่าคอมฯ เต็มในช่วง 6 เดือนแรกอีก! แหม่มแนะนำว่าลองเริ่มต้นจากสินค้าที่เราใช้จริง รีวิวจริง จะทำให้คอนเทนต์น่าเชื่อถือ และมีโอกาสขายได้ดีกว่าค่ะ อย่าลืมว่าการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต้องมาก่อนเสมอนะคะ บ๊ายบาย! 💕