สายผ่อนต้องอ่าน! “รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต” หนี้น้อยลง เหลือเงินเยอะขึ้น

สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ! เงินเดือนออกมาได้แป๊บเดียวก็ต้องเศร้าใจอีกแล้ว เพราะเมื่อหักยอดบัตรเครดิตต่าง ๆ ออกไปก็แทบไม่เหลือเลย ภาระหนี้สินเยอะ ไม่รู้จะหันไปพึ่งใครดี มาทางนี้เลยค่ะ เพราะวันนี้ แหม่มรีวิว จะพาไปรู้จักกับ Web Application ที่มีไว้ให้สายผ่อนอย่างเราใช้ชีวิตง่ายขึ้น จะง่ายยังไงตามมาดูกันเลย

[lwptoc numeration=”decimalnested” numerationSuffix=”dot” title=”รีไฟแนนซ์บัตรเครดิตด้วย Refinn” width=”auto” float=”center” backgroundColor=”#e0ffcb” skipHeadingLevel=”H2″ skipHeadingText=”เรื่องที่เกี่ยวข้อง:”]

ทำความรู้จักกับ Refinn บริการรีไฟแนนซ์ออนไลน์ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ระบบหนี้สินถือเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทยเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นหนี้กู้ซื้อบ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนรถที่ต้องผ่อนกันในระยะยาว หลายคนผ่อนกันไม่ไหว จนต้องมี บริการรีไฟแนนซ์ เกิดขึ้น Refinn เป็นเว็บไซต์สำหรับรีไฟแนนซ์ภาระหนี้สิน สิ่งที่เราจะได้รับจาก Refinn ก็คือ การย้ายธนาคารมาอยู่กับธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยถูกกว่า โดยทางเว็บไซต์จะรวบรวมโปรโมชั่นจาก 15 ธนาคารชั้นนำ แล้วมาคำนวณเปรียบเทียบ เพื่อหาช่องทางที่เหมาะสมที่สุดให้กับลูกค้า เราไม่ต้องไปยื่นเอกสารกับธนาคารเองเลย Refinn จัดการให้ทุกอย่าง ช่วยลดภาระหนี้สิน และช่วยให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้น

ทำไมต้องรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกับ Refinn

• สมัครฟรีผ่านออนไลน์ ไม่ต้องไปที่สาขาธนาคาร
• กรอกข้อมูลเพียงครั้งเดียวสมัครได้หลายธนาคาร
• รู้ผลไว มีระบบช่วยในการติดตามผล
• มีทีมงานคอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอด
• ไม่มีผลกับประวัติเครดิต ทำให้ไม่เสียประวัติทางการเงิน

• ลดยอดผ่อนต่อเดือนให้น้อยลง จากที่ต้องผ่อนหลายใบ รวมเป็นจ่ายที่ใบเดียว
• ช่วยให้การบริหารจัดการเงินง่ายขึ้น
• ลดดอกเบี้ยบัตรเครดิต จากสูงสุด 16% เหลือต่ำสุดเพียง 9%
• ใช้บริการฟรี ปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ใครสามารถขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตได้บ้าง

• มีอายุระหว่าง 22 – 60 ปี
• พนักงานบริษัท/มีรายได้ประจำ
• เงินเดือน 30,000 บาทขึ้นไป (หากเงินเดือนน้อยกว่า 30,000 บาท จะต้องมีสินเชื่อปัจจุบันไม่เกิน 2 ธนาคาร หรือสถาบันการเงิน)
• อายุงานปัจจุบันไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ผ่านช่วงทดลองงานแล้ว มีสถานะเป็นพนักงานประจำ

เอกสารในการยื่นขอสินเชื่อ

สำหรับพนักงานบริษัท/ผู้ที่มีรายได้ประจำ

1. เอกสารยืนยันตัวตน

• สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาบัตรข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ
• สำเนาทะเบียนบ้าน

2. เอกสารแสดงรายได้

• สลิปเงินเดือนปัจจุบัน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
• รายการเดินบัญชีที่รับเงินเดือน (ย้อนหลัง 3 เดือน)

3. บัญชีเงินฝาก

• สำเนาบัญชีเงินฝากหน้าแรกของธนาคารที่ต้องการให้ธนาคารโอนเงินเข้า กรณีที่สินเชื่อผ่านการอนุมัติแล้ว

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตผ่าน Refinn

1. ยื่นเอกสาร

เราสามารถส่งเอกสารเพียงครั้งเดียวก็สามารถยื่นได้หลายธนาคารเลย หลังจากที่เราส่งเอกสารครบทุกขั้นตอนแล้ว ธนาคารจะติดต่อกลับเพื่อแจ้งผลการอนุมัติภายใน 3-7 วันทำการ

2. รับข้อเสนอ

หากเรารับข้อเสนอจากธนาคารหรือสถาบันการเงิน ทางธนาคารก็จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีของเรา และสามารถนำเงินไปปิดสินเชื่อบัตรเครดิตได้ทันที

3. ปิดสินเชื่อบัตรเครดิต

บางธนาคารอาจใช้วิธีการออกเช็คเงินสด เพื่อให้เรานำไปปิดยอดสินเชื่อบัตรที่ต้องการรวมสินเชื่อ เราสามารถนำเช็คเงินสดไปขึ้นเงินให้กับธนาคารที่ต้องการปิดสินเชื่อบัตรได้เลย

บางคนมีบัตรเครดิตหลายใบ พอถึงสิ้นเดือนก็ต้องจำใจจ่ายเงินค่าบัตร ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงขนาดนี้ เพราะบัตรแต่ละใบก็มีดอกเบี้ย เมื่อนำมารวมกันแล้วยอดดอกเบี้ยแทบจะเท่ากับเงินต้นเลย แน่นอนว่าการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตเพื่อผ่อนเพียงก้อนเดียวย่อมดีกว่าเสมอ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ให้กับเรา หากมีเงินก้อนก็สามารถนำไปโปะเพิ่มได้ ทำให้สินเชื่อหมดเร็วขึ้น ถือว่าตอบโจทย์คนยุคใหม่ได้ดีเลยทีเดียวค่ะ

อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัพเดทสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง