อยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่ไม่มีวีซ่า จะเที่ยวได้ไหม? ประเทศไหนที่ไม่ต้องขอวีซ่าบ้าง? แหม่มรีวิว มีคำตอบค่ะ พร้อมข้อควรรู้ก่อนเดินทาง เอกสารที่ต้องเตรียม ปลายปีนี้ใครเล็งประเทศไหนไว้มาดูกันเลย
ในช่วงนี้จะเห็นได้ว่ามีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาเยือนประเทศไทยกันเยอะเลย ถึงเวลาแล้วที่คนไทยเราจะออกไปเที่ยวต่างประเทศกันบ้าง สำหรับประเทศที่คนไทยไปได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า มีทั้งหมด 34 ประเทศ ใช้เพียงหนังสือเดินทางสำหรับบุคคลธรรมดาไปประทับตราเป็นหลักฐานการเข้าประเทศ ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองเท่านั้น
[lwptoc numeration=”decimalnested” numerationSuffix=”dot” title=”ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า พาสปอร์ตไทยผ่านฉลุย” width=”auto” float=”center” backgroundColor=”#e0ffcb” skipHeadingLevel=”H1″ skipHeadingText=”เรื่องที่เกี่ยวข้อง:”]
แต่ก่อนจะไปดูลิสต์รายชื่อประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า เรามาทำความรู้จักกับหนังสือเดินทางกันก่อนค่ะ ว่าแต่ละสีคืออะไรบ้าง และสามารถใช้เดินทางได้อย่างไร หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า หนังสือเดินทาง แบ่งออกเป็น 4 ประเภท โดยจะแยกจากปกหนังสือเดินทางที่แบ่งเป็น 4 สี แต่ละเล่มจะมีการใช้งานที่แตกต่างกัน
หนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา (เล่มสีน้ำตาลหรือแดงเลือดหมู)
สำหรับประชาชนหรือบุคคลทั่วไป โดยหนังสือเดินทางจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเขตแดนประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าได้ทั้งหมด 34 ประเทศ
หนังสือเดินทางราชการ (เล่มสีน้ำเงิน)
หนังสือเดินทางที่กำหนดให้ใช้ในทางราชการตามที่กระทรวงการต่างประเทศอนุมัติเท่านั้น โดยหนังสือเดินทางจะมีอายุไม่เกิน 5 ปี สามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเขตแดนประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าได้ทั้งหมด 86 ประเทศ
หนังสือเดินทางการฑูต (เล่มสีแดงสด)
หนังสือเดินทางมีอายุไม่เกิน 5 ปี และไม่สามารถต่ออายุเพิ่มได้ มีข้อกำหนดออกให้เฉพาะบุคคลสามารถใช้เดินทางเข้า-ออกเขตแดนประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าได้ทั้งหมด 86 ประเทศ
หนังสือเดินทางชั่วคราว (เล่มสีเขียว)
ออกให้สำหรับพระภิกษุและสามเณรในการเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงชาวมุสลิมสำหรับการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ โดยหนังสือเดินทางจะมีอายุไม่เกิน 1-2 ปี
หนังสือเดินทางสำหรับนักท่องเที่ยวที่เราใช้กันอยู่เป็นประจำก็คือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดาเล่มสีน้ำตาล หรือสีแดงเลือดหมู สามารถเข้าออกประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าได้ 34 ประเทศ แต่ เงื่อนไขต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองประเทศปลายทางด้วย เพราะฉะนั้นจะต้องมีการเตรียมเอกสารยืนยันตัวตนเป็นภาษาอังกฤษไปให้พร้อม
- หนังสือรับรองการทำงาน
- สมุดบัญชีที่มีความเคลื่อนไหวทุกเดือน
- กรณีเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะหรือผู้เยาว์ จะต้องมีสูติบัตรติดตัวไว้เสมอ สำหรับเด็กที่ไม่ได้เดินทางไปกับพ่อแม่ ผู้ที่พาไปจะต้องมีสูติบัตรพร้อมหนังสือรับรองจากผู้ปกครองของเด็กที่ขอมาจากที่ทำการเขต เป็นฉบับภาษาอังกฤษแนบมาด้วย
- กรณีลูกที่ออกค่าใช้จ่ายให้พ่อแม่ หรือพ่อแม่ที่ออกค่าใช้จ่ายให้ลูกตลอดการเดินทาง จะต้องมีหนังสือสปอนเซอร์ถือไปพร้อมสูติบัตรด้วย
- ตั๋วเครื่องบินการเดินทางทั้งขาไปและขากลับ
- หลักฐานการจองที่พักเป็นหลักแหล่งชัดเจน
- แผนการเดินทางอย่างละเอียด เพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่เห็นว่าเรามาท่องเที่ยว ไม่ได้มีเจตนาอื่นที่ผิดกฎหมาย ในกรณีที่ถูกสอบถามหรือเรียกดูเอกสารก็จะต้องอธิบายตามแผนได้
34 ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 14 วัน
- บาห์เรน
- บรูไน
- กัมพูชา
- เมียนมา (เฉพาะท่าอากาศยานนานาชาติ)
- ไต้หวัน (เฉพาะ 1 ส.ค. 65 – 31 ก.ค. 66)
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 15 วัน
- ญี่ปุ่น
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 30 วัน
- จีน
- ฮ่องกง
- อินโดนีเซีย
- ลาว
- มาเก๊า
- มองโกเลีย
- มาเลเซีย
- มัลดีฟส์
- ฟิลิปปินส์
- กาตาร์
- รัสเซีย
- เซเชลส์
- สิงคโปร์
- แอฟริกาใต้
- ตุรกี
- วานูอาตู
- เวียดนาม
- ทาจิกิสถาน
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 60 วัน
- คีร์กีซ (เฉพาะ 1 ส.ค. 64 – 31 ธ.ค. 68)
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 90 วัน
- แอลเบเนีย
- อาร์เจนตินา
- บราซิล
- ชิลี
- เอกวาดอร์
- สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้)
- เปรู
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 180 วัน
- ปานามา
ประเทศที่อนุญาตให้อยู่ได้ 365 วัน
- จอร์เจีย
ข้อมูลประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะฉะนั้นก่อนเดินทางควรตรวจเช็คข้อมูลที่เว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง เพื่อความสบายใจหายห่วงค่ะ ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ
อ้างอิง: 1,2,3,เพื่อความถูกต้องแม่นยำและอัพเดทสามารถติดต่อสอบถามทางบริษัทโดยตรง