12 ที่เที่ยวเวียงจันทน์ 2024 – นั่งรถไฟไปเวียงจันทน์เที่ยวไหน ลงที่ไหน?

• ขบวนที่ 133 เส้นทาง กรุงเทพ-เวียงจันทน์ ออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เวลา 21.25 น. ถึงเวียงจันทน์ เวลา 09.05 น.
• ขบวนที่ 147 เส้นทาง อุดรธานี-เวียงจันทน์ ออกจากอุดรธานี 16.00 น. ถึงเวียงจันทน์ เวลา 17.55 น.

วิธีขึ้นรถไฟไปเที่ยวเวียงจันทน์ ขากลับ

แหม่มแนะนำว่า ผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวน 133 และ 147 ควรใช้พาสปอร์ตเท่านั้น ไม่ควรใช้บัตรผ่านแดน (Border Pass) เนื่องจากผู้ไม่มีพาสปอร์ตต้องไปทำบัตรที่สำนักงานออกหนังสือผ่านแดนหนองคาย ซึ่งคิวอาจจะยาว และทำให้ไม่ทันกลับมาที่สถานีเพื่อขึ้นรถไฟต่อได้ รวมถึงใครที่จะจองตั๋วรถไฟลาว-จีน (LCR) สามารถจองที่สถานีเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ได้เลย

• นั่งชั้น 3 ราคา 281 บาท
• นั่งชั้น 2 แอร์ ราคา 574 บาท
• รถไฟตู้นอนแอร์ : นอนบน ราคา 784 บาท, นอนล่าง ราคา 874 บาท

12 ที่เที่ยวสำหรับคนนั่งรถไฟเที่ยวเวียงจันทน์ที่ห้ามพลาด

ปะตูชัย (Patuxay)

อันดับแรกต้องมาเช็คอินที่แลนด์มาร์คของเวียงจันทน์อย่าง ปะตูชัย หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า “ประตูชัยลาว” นั่นเอง เป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่ออกแบบเลียนแบบอาร์คเดอทรียงฟ์ของฝรั่งเศส แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของลาวด้วยนะ เดินเล่นถ่ายรูปสวย ๆ กันได้เพลินเลยค่ะ แถมรอบข้างก็มีร้านอาหาร คาเฟ่เพียบ ถือเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ที่ห้ามพลาด

• การเดินทาง: จากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ สามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ไปได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
• ระยะทาง: ประมาณ 2 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟ
• ค่าเข้า: ฟรีค่ะ

หอพระแก้ว (Haw Phra Kaew)

ต่อกันที่หอพระแก้ว อดีตเคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกตมาก่อนนะคะ แต่ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ประเทศไทยแล้ว แม้จะไม่มีพระแก้วมรกตให้ได้สักการะ แต่ตัวอาคารก็สวยงามมากค่ะ มีสถาปัตยกรรมลาวผสมผสานกับฝรั่งเศสให้ได้ชม ถือเป็นอีกหนึ่งสถนที่ที่มีความเก่าแก่และทรงคุณค่ายิ่งทางประวัติศาสตร์

• การเดินทาง: เดินทางสะดวกมากค่ะ อยู่ใกล้กับปะตูชัย เดินไปได้เลย
• ระยะทาง: ประมาณ 1 กิโลเมตรจากปะตูชัย
• ค่าเข้า: ฟรี

พระธาตุหลวง (Pha That Luang)

อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญของเวียงจันทน์ คือ พระธาตุหลวง สถูปสีทองอร่ามที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศลาวเลยก็ว่าได้ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาทำบุญและขอพร

• การเดินทาง: นั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่จากปะตูชัยประมาณ 5 นาที
• ระยะทาง: ประมาณ 2 กิโลเมตรจากปะตูชัย
• ค่าเข้า: ฟรี

สวนพระ (Buddha Park)

สำหรับสายชอบความแปลกใหม่ ต้องไม่พลาดสวนพระค่ะ ที่นี่มีรูปปั้นพระพุทธรูปและเทพเจ้าตามความเชื่อของลาวมากมายหลายร้อยองค์ บรรยากาศเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบเลย

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
• ระยะทาง: ประมาณ 26 กิโลเมตรจากตัวเมือง
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมเล็กน้อย

ภูหัวโล้น ไซสมบูรณ์

ถ้าอยากสัมผัสธรรมชาติสวย ๆ แนะนำให้ไปเที่ยวภูหัวโล้นค่ะ เป็นภูเขาที่มีวิวสวยมาก ๆ สามารถมองเห็นวิวเมืองเวียงจันทน์ได้แบบพาโนรามา บรรยากาศคือเหมือนได้ขึ้นเขาที่ต่างประเทศ มินิมอลสุด ๆ

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
• ระยะทาง: ประมาณ 35 กิโลเมตรจากตัวเมือง
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมเล็กน้อย

วัดสีสะเกด (Wat Sisaket)

วัดสีสะเกดเป็นวัดเก่าแก่ที่มีพระพุทธรูปมากมายหลายพันองค์ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาเดินชมและศึกษาประวัติศาสตร์ และเรียนรู้ความเป็นเวียงจันทน์ เสพวิถีชีวิตของชุชม

• การเดินทาง: เดินทางสะดวกมากค่ะ อยู่ใกล้กับพระธาตุหลวง
• ระยะทาง: ประมาณ 1 กิโลเมตรจากพระธาตุหลวง
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมเล็กน้อย

บลูลากูน (Blue Lagoon)

สำหรับสาว ๆ ที่ชอบเล่นน้ำคลายร้อน บลูลากูนเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีค่ะ เป็นสระน้ำธรรมชาติสีฟ้าสวยใส เหมาะแก่การมาพักผ่อน บลูลากูนเนี่ยเป็นเหมือนสวรรค์ของสายชอบเล่นน้ำเลยค่ะ น้ำใสสีฟ้าสวยมากกก เหมาะกับการไปแช่น้ำคลายร้อนสุด ๆ บรรยากาศรอบ ๆ ก็ร่มรื่น มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะแยะเลยค่ะ

• การเดินทาง: จากสถานีรถไฟเวียงจันทน์ สามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ไปได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
• ระยะทาง: ประมาณ 15 กิโลเมตรจากสถานีรถไฟ
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมนะคะ ราคาอาจจะปรับเปลี่ยนได้บ้าง ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไป

ผาหนามไซ

ผาหนามไซเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยงามมากค่ะ วิวดีมาก เห็นวิวธรรมชาติรอบๆ ได้แบบ 360 องศาเลย ถ้าใครชอบถ่ายรูปวิวสวยๆ ต้องไม่พลาดมาที่นี่นะคะ และที่นี้มีจุดสำคัญที่ถูกต้องต้องมาถ่ายรูปเช็คอินคือมอเตอร์ไซต์ที่ยอดผา ห้ามพลาด

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
• ระยะทาง: ประมาณ 35 กิโลเมตรจากตัวเมือง
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมเล็กน้อยค่ะ

ผาเงิน

ผาเงินเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่น่าสนใจค่ะ แต่จะแตกต่างจากผาหนามไซตรงที่ผาเงินจะมีความสูงชันมากกว่า และวิวก็จะแตกต่างกันไป แต่ทั้งสองที่ก็สวยงามไม่แพ้กันเลย ต้องไปลองสักครั้ง

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
• ระยะทาง: ประมาณ 35 กิโลเมตรจากตัวเมือง
• ค่าเข้า: มีค่าเข้าชมเล็กน้อยค่ะ

แพริมน้ำ เมืองเฟือง

อยากจะบอกว่าที่นี่คือสวรรค์ของสายกินเลยค่ะ มีร้านอาหารริมน้ำเยอะแยะไปหมด บรรยากาศดี เหมาะกับการมานั่งชิล ๆ ทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมน้ำ ตัวแพก็บรรยากาศดีเลยค่ะ ร่มรื่นมีกิจกรรมให้ทำเยอะ

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ สามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ไปได้เลยค่ะ
• ระยะทาง: ขึ้นอยู่กับจุดที่ต้องการไป แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 10-15 กิโลเมตร
• ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ แต่จะมีค่าอาหารและเครื่องดื่ม

อ่างน้ำตง

อ่างน้ำตงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งค่ะ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีวิวสวยงาม ร่มรื่น เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจ เหมือนกับได้ไปพักที่ต่างประเทศ ให้ความชิล และเก๋แบบสุด ๆ ใครที่อยากไปเที่ยวต่างประเทศแต่งบน้อย ให้ฟิลว่ายุโรปเมืองหนาว ต้องที่อ่างน้ำตงเลยค่ะ

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
• ระยะทาง: ประมาณ 15 กิโลเมตรจากตัวเมือง
• ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ

เขตเมืองเก่า

เขตเมืองเก่า เวียงจันทน์ หลวงพระบาง แหม่มว่าที่นี้เหมาะกับเพื่อน ๆ ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศความเป็นโลคอล วิถีชีวิตชุมชนโบราณ ด้วยเสน่ห์ของผู้คน ชาวบ้านในพื้น อาหารการกิน อาคารบ้านเรือนที่แหม่มบอกได้เลยนะคะว่าอบอุ่นสุด ๆ ของแบบนี้ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ

• การเดินทาง: จากตัวเมืองเวียงจันทน์ สามารถนั่งรถตุ๊กตุ๊กหรือแท็กซี่ไปได้เลยค่ะ
• ระยะทาง: ขึ้นอยู่กับจุดที่พัก แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 5-10 กิโลเมตร
• ค่าเข้า: ไม่มีค่าเข้าชมค่ะ

เป็นยังไงบ้างค่ะกับการเปิดเส้นทางใหม่ ๆ ของการท่องเที่ยวด้วยรถไฟไทย แหม่มบอกเลยนะคะประเทศเพื่อนบ้าน บ้านพี่เมืองน้องอย่างประเทศลาวก็มีอะไรน่าสนใจเยอะเลยค่ะ แถมราคาค่าใช้จ่ายก็ถือว่าดีมาก ๆ สำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบ สำหรับใครที่กำลังสนใจ การนั่งรถไฟไปเที่ยวเวียงจันทน์ ปละมองว่าว่าเวียงจันทน์มีอะไรน่าเที่ยวน่าจะชื่นชอบบทความนี้กันนะคะ