ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม 2020 – ราคาโหลดกระเป๋า AirAsia,นกแอร์, Lion Air, Scoot

สำหรับใครที่กำลังเล็งไปเที่ยวไปทัวร์ ต่างประเทศ ในประเทศ
แล้วมีกระเป๋าหลายใบ ของเยอะ มาลองดูกันค่ะ ว่าสายการบิน
ที่เราเล็งไว้ทั้งสายการาบินโลวคอส์ท (Low Cost Airline)
และฟูลเซอร์วิสอย่างการบินไทย 🙂
มีบริการและค่าใช้จ่ายในการโหลดกระเป๋าเพิ่มยังไงบ้างค่ะ

ซึ่งแหม่มได้รวมข้อมูลราคาซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ว่าจะโหลดกระเป๋า 2020 สายการบินแอร์เอเชีย (AirAsia), นกแอร์ (NokAir), การบินไทย, ไลออนแอร์ (Lion Air), สกูท (Scoot) ในราคาเท่าไหร่กี่บาท เริ่มต้นโหลดได้กี่โล สูงสุดกี่โล หรือแบบน้ำหนักกระเป๋าฟรีได้กี่โล มาดูกันค่ะ

ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม Air Asia (แอร์ เอเชีย)

สำหรับการค่าโหลดกระเป๋าแอร์เอเชียในประเทศ และต่างประเทศจะมีเรทที่แตกต่างกันออกไปตามประเทศ และสนามบินปลายทางที่เราลงเครื่อง ซึ่งสามารถโหลดได้สูงสุด 40 กก.ต่อที่นั่ง และปัจจุบันมีเพียงเส้นทางในประเทศเท่านั้นที่ซื้อน้ำหนักเเพิ่มได้เรทเริ่มต้นที่ 15 กก.ตั้งแต่ขั้นตอนการซื้อตั๋วในเว็ปไซต์ ส่วนต่างประเทศจะเริ่มต้นที่ 20 กก.เป็นอัตราค่าโหลดกระเป๋าเริ่มต้น

-โฆษณา-

ในส่วนของค่าโหลดกระเป๋า แอร์เอเชีย ในประเทศ เริ่มต้นการซื้อนำ้หนักกระเป๋าเพิ่มที่ 15 กก. ในราคา 430 บาท และถ้าไปที่เคาเตอร์ก็จะเหมาจ่ายราคา 1000 บาทสำหรับกระเป๋าไม่เกิน 15 กก.

อัตราค่าโหลดกระเป๋า แอร์เอเชีย ต่างประเทศ มีหลากหลายราคาขึ้นกับปลายทางสนามบินแม้เป็นประเทศเดียวกันแต่ต่างสนามบินบางประเทศก็มีค่าโหลดกระเป๋าที่แตกต่างกัน โดยเที่ยวบินจากกรุงเทพ ไปญี่ปุ่น ค่าโหลดกระเป๋า แอร์เอเชีย ญี่ปุ่นเริ่มต้น 20 กก. ประมาณ 1040-1120 บาท หรือหากซื้อน้ำหนักเพิ่มที่หน้าเคาวเตอร์ ค่าโหลดกระเป๋าเริ่มต้น 1800 บาทไม่เกิน 15 กิโลกรัม หรือเที่ยวบินจากรุงเทพไปเกาหลี ค่าโหลดกระเป๋าในเว็ปไซต์ตอนซื้อตั๋วเริ่มต้น 20 กก. ประมาณ 1220 บาท กรณีซื้อน้ำหนักหน้าเคาวเตอร์ ค่าโหลดกระเป๋าเริ่มต้น 1800 บาทไม่เกิน 15 กิโลกรัมเช่นเดียวกันกับญี่ปุ่น เป็นต้น

ดังนั้นการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มของ Air Asia นั้นแนะนำให้ซื้อตั้งแต่ขั้นตอนการจองตั๋วเลยจะเป็นอัตราค่าโหลดกระเป๋าที่ถูกที่สุด รองลงมาก็ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มในเว็ปไซต์หลังจากที่จองตั๋วไปแล้วซึ่งทำได้จนถึงก่อนเวลาเดินทาง 4 ชั่วโมงก็จะราคาถูกขึ้นมาอีกหน่อย แต่ไม่มากเท่าตัวเลือกสุดท้ายคือ การซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มที่หน้าเคาวเตอร์ราคาจะสูงกว่ามากเป็นเท่าตัวก็ว่าได้

back to menu ↑

ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม นกแอร์ (Nok Air)

สำหรับค่าโหลดกระเป๋า นกแอร์ จะถูกแบ่งออกตามประเภทของตั๋ว 3 ประเภทหลักๆ ได้แก่ บัตรโดยสารประเภทบินเบาเบา (Nok Lite), บัตรโดยสารประเภทบินสบาย (Nok X-tra) และบัตรโดยสารประเภทบินเพลิดเพลิน (Nok MAX) โดยแบบบินสบายและบินเพลิดเพลิน ราคาบัตรจะรวมค่าสัมภาระไปแล้ว 300 บาท ฟรีน้ำหนักโหลดกระเป๋า 20 กก.ไปในตัวถือแล้ว มาดูอัตราค่าโหลดกระเป๋า นกแอร์แต่ละแบบกันค่ะ

สำหรับบัตรโดยสารแบบประเภทบินเบาเบา (Nok Lite) ปกติแล้วจะไม่มีน้ำหนักให้ หากต้องการโหลดกระเป๋าจะต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มซึ่งเริ่มต้นที่ 15 กก. แต่หากเป็นลูกค้านกสไมล์พลัสก็จะได้สิทธิ์การโหลด 10 กก.ฟรีตั้งแต่เริ่มต้นหากเพียงพอก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม อัตราค่าโหลดกระเป๋าพร้อมซื้ือตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินในประเทศเริ่มต้นที่ 350 บาท สูงสุด 40 กก. 1500 บาท และระหว่างประเทศเริ่มต้น 600 บาท 15 กก. และสูงสุด 40 กก. ราคา 1800 บาท

และสำหรับบัตรโดยสารประเภทบินสบาย (Nok X-tra) และบินเพลิดเพลิน (Nok MAX) ฟรีน้ำหนักโหลดกระเป๋า 20 กก. ซึ่งถ้าตั๋วแบบบินสบายเป็นลูกค้านกสไมล์พลัสก็จะเพิ่มเป็น 25 กก. ส่วนแบบบินเพลิดเพลินจะเพิ่มเป็น 30 กก. หรือหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเส้นทางภายในประเทศก็สามารถเริ่มต้นซื้อตั้งแต่จองตั๋วเริ่มต้นที่ 5 กก. 150 บาท สูงสุดเพิ่มได้ 20 กก. 850 บาท และระหว่างประเทศจะอยู่ที่ 5 กก. 150 บาท และสูงสุดเพิ่มได้ 20 กก. 1000 บาท

back to menu ↑

ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม การบินไทย

มาถึงการบินไทยเป็นสายการบินฟูลเซอร์วิส (Full-service airlines) จึงมีบริการโหลดกระเป๋าได้อยู่แล้วเป็นพื้นฐานสำหรับทุกระดับชั้นตั๋วเครื่องบิน

ซึ่งการบินไทยน้ำหนักกระเป๋าที่โหลดได้ฟรี สำหรับการเดินทางในประเทศ โดยปกติเริ่มต้นน้อยสุดที่ 30 กก. สำหรับชั้นประหยัด (Economy Class) และปัจจุบันสำหรับชั้นประหยัด รหัส L/ V/ W ที่ได้ตั๋วมาเป็นราคาพิเศษ หรือตั๋วโปรได้ปรับน้ำหนักโหลดได้เพียง 20 กก.เท่านั้น โดยน้ำหนักกระเป๋าสูงสุดที่ได้ฟรี คือ 50 กก. ของตั๋วประเภทชั้นหนึ่ง (Royal First Class)

และสำหรับใครที่อยากจะซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม การบินไทยได้แบ่งแยกอัตราค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระไว้ชัดเจนแตกต่างกันตามเส้นทางการขึ้นเครื่องแต่ละที่ไปยังจุดหมายสนามบินแต่ละที่ โดยในประเทศจะมีค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระเพิ่ม เริ่มต้นที่ 55 บาทต่อกิโลกรัม และสูงสุดที่ 125 บาทต่อกิโลกรัม และสำหรับระหว่างประเทศราคาต่ำสุด 12 บาทต่อกิโลกรัม และสูงสุดอยู่ที่ 70 บาทต่อกิโลกรัม แตกต่างกันไปตามโซนประเทศ ยกเว้นเส้นทางสหรัฐอเมริกาและแคนาดาจะคิดค่าโหลดกระเป๋าตามจำนวนชิ้น (ปัจจุบันมีโปรโมชั่นซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มล่วงหน้าล่วงหน้าก่อนวันเดินทางลดค่าโหลดกระเป๋าเพิ่ม 10%)

back to menu ↑

ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม Lion Air (ไลออนแอร์)

ค่าโหลดกระเป๋าไลอ้อนแอร์ต้องบอกว่าค่อนข้างยืดหยุ่นมาก วิธีซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม lion air คล้ายกับสายการบินแบบฟูลเซอร์วิส (Full-service airlines) มากๆเลย เพราะสามารถเริ่มซื้อเพิ่มได้ตั้งแต่ 1 กิโลกรัมแรก และสูงสุดที่ 45 กิโลกรัมตามความจำเป็นในการใช้งานของผู้โดยสารจริงๆ

ซึ่งการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มของไลออนแอร์จะแบ่งออกเป็น 5 อัตราค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระหลักๆ อย่างแรกเลยคือ ค่าโหลดกระเป๋า Lion Air ในประเทศที่เริ่มต้นซื้อได้ 1 กิโลกรัมในราคา 30 บาท โดยจะเพิ่มขึ้นมาทีละ 30 บาทต่อกิโลกรัม จนถึง กิโลกรัมที่ 6 จะราคาโดดมาที่ 174 บาท มาถึงสูงสุดที่ 45 กิโลกรัมในราคา 1095 บาท

ต่อมาคือค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระ ระหว่างประเทศ ยกเว้นเส้นทางประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม ไต้หวัน เริ่มต้นกิโลกรัมแรกที่ราคา 50 บาท และสูงสุด 45 กิโลกรัมที่ราคา 2200 บาท, ส่วนเส้นทางกรุงเทพฯ ไปญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท – 2475 บาท,  เส้นทางกรุงเทพฯ ไปไต้หวันราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท – 2325 บาท และเส้นทางกรุงเทพฯ ไปเวียดนาม ราคาเริ่มต้นที่ 40 บาท – 2200 บาท

back to menu ↑

ซื้อน้ําหนักกระเป๋าเพิ่ม Scoot

สำหรับค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระเพิ่มเติมของสกูท ก็สามารถเพิ่มได้เริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม และสูงสุดอยู่ที่ 40 กิโลกรัมค่ะ หรือสำหรับคนที่ซื้อตั๋ว scoot แบบ FlyBag/FlyBagEat และ ScootPlus จะมีโควต้าน้ำหนักในการโหลดกระเป๋าอยู่แล้ว 20 กิโลกรัม และ 30 กิโลกรัมตามลำดับค่ะ ซึ่งแน่นอนว่าหากใครต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่มเติมก็สามารถทำได้เช่นกันในอัตราค่าบริการเดียวกันแบบแบบ fly ชั้นประหยัดสุดๆค่ะ

ค่าโหลดกระเป๋าของ scoot จะคิดตามระยะทางของจุดหมายจุดเริ่มต้น ไปยังปลายทางประเทศต่างๆ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท 6 กลุ่ม คือเส้นทางระยะใกล้ (กลุ่มบินน้อยกว่า 3 ชม. และกลุ่มบิน 3-4 ชม.), กลาง (กลุ่มบิน 4-5 ชม. และกลุ่มบิน 5-7 ชม.) ,ไกล (กลุ่มบิน 7-9 ชม. และกลุ่มบิน 9-11 ชม.) และไกลพิเศษ (กลุ่มบินมากกว่า 11 ชม.)

โดยระยะใกล้ เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ ไป สิงคโปร์ หรือจาก ไทเป ไป เกาหลี เป็นต้น มีอัตราค่าโหลดกระเป๋าสัมภาระเบื้องต้นเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม ราคา 600-700 บาท และมากสุดคือ 40 กิโลกรัม ราคา 1,600-1,700 บาท

ต่อมาคือระยะกลาง เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ ไป โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ราคา 800-1,000 บาท สำหรับ 20 กิโลกรัม และราคาสูงสุด 1,800-2,200 บาท สำหรับ 40 กิโลกรัม

เส้นทางระยะไกล เช่น กรุงเทพฯ ไป โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ราคา 1,100-1,350 บาท โหลดได้ 20 กิโลกรัม และ 40 กิโลกรัม ราคา 2,250-3,350 บาท

สุดท้ายคือระยะไกลพิเศษ คือเส้นทางสิงคโปร์ ไป กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีก ราคา 1,550 บาทต่อ20 กิโลกรัม และสูงสุดที่ 3,550 บาทต่อ40 กิโลกรัม

อ้างอิง: สายการบินการบินไทย, สายการบิน Scoot, สายการบินNokAir, สายการบินAirAsia, สายการบินLionAir
*ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละสายการบิน*

แหม่มรีวิว
Logo